คุณกำลัง แพ้ยาสระผม หรือเปล่า รีบเช็กด่วน! เพราะการแพ้แชมพูสระผมไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อาจทำให้เกิดปัญหาระคายเคืองบนหนังศีรษะ เส้นผมหลุดร่วงและปัญหาอื่นๆ ได้เลยทีเดียว ดังนั้นต้องสังเกตตัวเองดูแล้วล่ะ ว่ามีอาการแพ้ยาสระผมหรือเปล่า เพื่อจะได้ทำการรักษาได้ทัน และเปลี่ยนไปใช้ยาสระผมยี่ห้อใหม่ ก่อนจะเกิดอาการแพ้มากกว่าเดิมนั่นเอง
เช็กสิ! แพ้ยาสระผม อาการเป็นอย่างไรบ้าง
การ แพ้ยาสระผม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยมากกว่าที่เราคิด หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เราชอบใช้ทุกวัน อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งอาการแพ้จากยาสระผมมีหลายรูปแบบ มาเช็กกันดีกว่าว่าอาการที่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
- หนังศีรษะคัน: ถ้ารู้สึกแสบหรือคันตรงหนังศีรษะหลังจากใช้ยาสระผม นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังแพ้
- ผื่นแดงหรือมีสิว: เห็นจุดแดงๆ หรือผื่นผิวหนังขึ้นที่หนังศีรษะหรือรอบๆ ใบหน้า นั่นก็อาจจะเป็นอาการแพ้ที่เกิดจากสารเคมีในยาสระผมเช่นกัน
- ผมร่วง: ถ้าเริ่มรู้สึกว่าผมร่วงมากเกินไป หรือผมบางลง อาจจะต้องลองสังเกตว่าสาเหตุเกิดจากการแพ้ยาสระผมหรือเปล่า
- กลิ่นแปลกๆ: ถ้ายาสระผมที่ใช้ปกติไม่มีกลิ่นแปลกๆ แต่หลังจากใช้สักพักแล้วรู้สึกว่ามีกลิ่นแปลกๆ นี่อาจเป็นอาการของการระคายเคืองที่เกิดจากสารบางอย่างในผลิตภัณฑ์
- อาการคันตามร่างกาย: อาจมีอาการคันเกิดขึ้นตามร่างกายส่วนอื่นๆ นอกจากหนังศีรษะ เช่น แขน ขา หรือหลัง นั่นก็เป็นสัญญาณว่าแพ้ผลิตภัณฑ์ได้เช่นกัน
ถ้าพบเจออาการเหล่านี้ ก็ควรหยุดใช้ยาสระผมยี่ห้อนั้นทันที แล้วลองสังเกตว่าอาการดีขึ้นหรือเปล่า ถ้ายังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการที่รุนแรงกว่าเดิม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
การดูแลรักษา เมื่อแพ้ยาสระผม
เมื่อเกิดการ แพ้ยาสระผม สามารถดูแลรักษาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1.หยุดใช้ทันที
ขั้นตอนแรกที่ต้องทำให้ได้เลยคือ หยุดใช้น้ำยาสระผมที่ทำให้แพ้ทันที เพราะถ้ายังใช้ต่อไป อาจจะทำให้อาการแย่ลงได้ ควรเปลี่ยนไปใช้แชมพูสระผมยี่ห้ออื่นแทนดีกว่า
2.ล้างออกให้สะอาด
หลังจากหยุดใช้แล้ว ให้ล้างผมและหนังศีรษะให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ฟอกให้สะอาดอย่าให้เหลือสารตกค้างอยู่ เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้อีก
3.ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยบรรเทา
ถ้ามีอาการคันหรือแสบมาก ลองหาผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะที่ช่วยบรรเทา อย่างเจลว่านหางจระเข้หรือครีมที่มีสาร soothing มาช่วย จะลดอาการแพ้ยาสระผมได้
4.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน
ในช่วงที่หนังศีรษะมีอาการแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการไดร์ผมหรือใช้ที่หนีบผม เพราะความร้อนอาจทำให้ระคายเคืองมากขึ้นไปอีก
5.ควรใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยน
เมื่อคุณกลับมาเลือกยาสระผมใหม่ ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยน ไม่มีสารเคมีแรง ๆ หรือน้ำหอมเลยอาจจะดีที่สุด ลองหายาสระผมที่ใช้สำหรับผู้ที่แพ้ง่ายดู
6.สังเกตอาการ
หลังจากที่เปลี่ยนผลิตภัณฑ์แล้ว อย่าลืมสังเกตอาการของหนังศีรษะเราอย่างใกล้ชิด ถ้ายังเกิดอาการแพ้หรือแย่กว่าเดิม ก็ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรด่วน
7.ปรึกษาแพทย์
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือเริ่มมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ผื่น ขอบตาบวม หรือบวมแดง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างถูกต้อง
การแพ้ยาสระผมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะสามารถสร้างความไม่สบายตัวมากมายได้ ดังนั้น ควรใส่ใจและดูแลตัวเองให้ดี ยิ่งดูแลเร็วเท่าไหร่ ยิ่งหายเร็วเท่านั้น
ควรเลือกยาสระผมอย่างไร ไม่ให้เกิดการแพ้
การเลือกยาสระผมให้เหมาะกับเราเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าซื้อผิดก็อาจทำให้เกิดการแพ้และทำให้เราไม่สบายใจได้เลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อให้การเลือกยาสระผมเป็นไปอย่างปลอดภัย และช่วยลดโอกาสในการแพ้ มาลองดูเคล็ดลับกันดีกว่า
- อ่านฉลากหรือส่วนผสมในขวด เพราะผลิตภัณฑ์บางอย่างมีสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ควรมองหายาสระผมที่ปราศจากสารเคมีแรงๆ อย่างพาราเบน, ซัลเฟต และน้ำหอม เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้คนที่มีผิวแพ้ง่ายเกิดปฏิกิริยาต่อหนังศีรษะได้
- ลองเลือกยาสระผมที่ระบุว่าเป็นสูตรอ่อนโยน หรือ "hypoallergenic" ซึ่งแปลว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยง แพ้ยาสระผม อีกอย่างที่ควรให้ความสนใจคือ อย่าลืมดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นเหมาะกับสภาพเส้นผมหรือหนังศีรษะของเราหรือไม่ ถ้าเราเป็นคนที่มีหนังศีรษะมัน ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับหนังศีรษะมัน แต่ถ้าเป็นคนที่มีหนังศีรษะแห้งก็ควรมองหายาสระผมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น
- เลือกยาสระผมตามกิจกรรมหรือการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เช่น ถ้าเราชอบว่ายน้ำ บางครั้งก็อาจต้องการยาสระผมที่ช่วยล้างคลอรีน หรือถ้าเรามีอาการแพ้ง่ายอาจต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนมากขึ้น
- การทดสอบการแพ้ก่อนใช้ยาสระผมตัวใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เรามั่นใจได้มากขึ้น แค่ทาลงบนผิวหนัง แล้วสังเกตดูว่าเกิดอาการระคายเคืองหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจ
สำหรับใครที่แพ้ยาสระผม ก็ลองเปลี่ยนมาใช้ยาสระผมยี่ห้ออื่นกันดู แต่ถ้ามีอาการแพ้อย่างรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษาก่อนจะมีอาการรุนแรงกว่าเดิม ที่สำคัญควรเลือกใช้แชมพูสระผมที่มีความอ่อนโยนเท่านั้น ยิ่งเป็นออร์แกนิคได้ยิ่งดีเลย