เทรนด์การเลี้ยงลูกแบบใหม่ ไม่บังคับ ไม่ตามใจ ให้เขาเลือกในสิ่งที่ชอบ

15 September 2020
3631 view

การเลี้ยงลูกแบบไม่บังคับ ไม่ตามใจ ฟัง ๆ กันดูแล้วในฐานะของคนที่เป็นพ่อ แม่ อย่างเรานั้นคิดว่าทำได้กันหรือไม่คะ การเลี้ยงลูกสมัยนี้ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่มาเป็นตัวแปร วิธีการเลี้ยงดูลูกที่เติบโตมาในเจเนอเรชั่น Z (Generation Z) และพ่วงด้วยเจเนเรชั่นอัลฟ่า (Generation  Alpha) เด็กยุคนี้จะเกิดในสภาพแวดล้อมใหม่ การติดต่อสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ซึ่งแตกต่างจากยุคสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง มีการนำเรื่องของโซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยเสริมพัฒนาการของลูก มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรฐกิจและสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อบุคลิกภาพ พฤติกรรมและทัศนคติของลูก ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อาจทำให้พ่อแม่เป็นห่วงค่อนข้างมาก อีกทั้งพ่อแม่สมัยนี้ยังไม่มีเวลาที่จะดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ ต่างคนต่างทำงาน ดังนั้นการเลี้ยงลูกด้วยเงิน การทดแทนด้วยสิ่งของและการตามใจลูก ต้องมีมาแน่นอนค่ะ วันนี้ Mamaexpert เลยมี เทรนด์การเลี้ยงลูกแบบใหม่ ไม่บังคับ ไม่ตามใจ ให้เขาเลือกในสิ่งที่ชอบ มาฝากแม่ ๆ กันค่ะ

เทรนด์การเลี้ยงลูกแบบใหม่คืออะไร

เคยได้ยินสำนวนไทยนี้ไหมคะว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” ซึ่งสมัยก่อน พ่อ แม่ เองมีความเชื่อที่ว่า การใช้กำลัง การใช้ความรุนแรง ช่วยฝึกระเบียบวินัยให้ลูกได้  การที่พ่อแม่ตีก็แปลว่า ท่านหวังดีและรักไม่อยากให้ลูกเสียคนแต่ปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว จะทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะการตีเป็นการทำร้ายร่างกายเด็กถือว่าเป็นความผิดไปโดยปริยาย พ่อแม่สมัยใหม่ควรเลี้ยงลูกอย่างเข้าใจและมีเหตุผล ไม่ควรที่จะเอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น พร้อมทั้งยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นค่ะ

การเลี้ยงลูกแบบไม่บังคับ ไม่ตามใจทำอย่างไร

1. ให้อิสระแก่ลูก  โดยพ่อแม่คอยแนะนำอย่างมีเหตุและผล เมื่อลูกเกิดความสับสน ในเรื่องต่าง ๆ ที่เขาไม่เข้าใจ เคารพการตัดสินใจของลูก อย่าลืมนะคะว่า เป้าหมายของพ่อแม่ ไม่ใช่เป้าหมายและความสุขของลูกเสมอไป อย่าบังคับเพื่อให้เขาทำตามความต้องการของเรานะคะ

2. ใช้เหตุผลในการพูดคุยกับลูก/งดกิจกรรมที่เขาชอบเมื่อเขาทำผิด พร้อมทั้งบอกเหตุผลว่าเพราะอะไรจึงต้องทำเช่นนั้น

3. ฝึกให้ลูกรู้จักแบ่งปัน รอคอย เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีระเบียบวินัยในตนเอง เช่น ฝึกให้ลูกทำงานบ้านโดยมีข้อตกลงที่ทำร่วมกันทั้งสองฝ่าย แบ่งวัน เวลา กันอย่างเหมาะสม

ซึ่งทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถสอนลูกได้ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญการเลี้ยงลูกแบบไม่บังคับ ไม่ตามใจ พ่อแม่ต้องท่องไว้ในใจเลยค่ะว่าต้องให้ลูก “เลือกในสิ่งที่ลูกชอบ” ให้อิสระในการเลือก การคิดของลูก ตลอดจนลูกเติบโต พ่อแม่เพียงแนะแนวทาง ข้อดี ข้อเสียของแต่ละทางเลือกให้ลูกเลือกตัดสินใจด้วยตนเอง คอยเป็นที่ปรึกษา พร้อมซัพพอร์ตให้ลูก เมื่อลูกมีปัญหา มองกลับมาลูกจะมองเห็นพ่อแม่เสมอ และเพื่อเป็นการสร้างคุณค่าในตัวของลูก ทำให้ลูกรู้สึกภูมิใจ มีความรับผิดชอบ ยอบรับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจเลือก  

นอกจากพ่อแม่จะช่วยซัพพอร์ตลูกในเรื่องการใช้ชีวิตแล้ว การช่วยเสริมสร้างให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ฉลาดสมวัย ด้วยการเลือกอาหารที่ครบ 5 หมู่ ร่วมกับลูกเพื่อให้ลูกมีพัฒนาการสมวัย โดยเฉพาะการเลือกนม ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกด้วย และควรเลือกนมที่ใกล้เคียงนมแม่ที่สุดให้ลูกนะคะ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ใกล้เคียงนมแม่ที่สุด เช่น นมแพะ เพราะนมแพะมีกระบวนการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์เหมือนกับนมแม่ จึงทำให้นมแพะมีสารอาหารจากธรรมชาติหรือเรียกว่า “ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์” ไม่ว่าจะเป็น ทอรีนช่วยให้การทำงานของจอประสาทตาดี นิวคลีโอไทด์ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โพลีเอมีนส์ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารมีความสมบูรณ์  โกรทแฟคเตอร์ช่วยในการเจริญเติบโตที่สมวัย นมแพะ มีโปรตีนที่ย่อยและดูดซึมง่าย หมดปัญหาอาการไม่สบายท้องต่าง ๆ อีกทั้งนมแพะยังมี ใยอาหาร 2 ชนิดคือ อินนูลินและโอลิโกฟรุคโตส ซึ่งช่วยเริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดอาการท้องผูกได้อีกด้วยนะคะ

เห็นไหมคะว่า “เทรนด์การเลี้ยงลูกแบบใหม่ ไม่บังคับ ไม่ตามใจ ให้เขาเลือกในสิ่งที่ชอบ”  ง่ายนิดเดียวใช่ไหมล่ะคะ นอกจากการใช้เหตุผลและพูดคุยด้วยความเข้าใจแล้ว การให้ลูกมีส่วนร่วมในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเลือกอาหาร การทำกิจกรรมต่าง ๆ จะเป็นการฝึกให้ลูกมีใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ และเห็นใจผู้อื่น  เพียงเท่าแม่ ๆ ก็หายกังวลใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกแล้วค่ะ 

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team