ยารักษาอาการแพ้ท้อง … ที่ปลอดภัย

ขณะตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนมีอาการแพ้ท้องหนัก และเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเป็นอย่างมาก อาการแพ้ท้องดังกล่าว อาจจะแพ้มากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนของร่างกายด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่อนข้างมากจะแพ้อยู่นานหลายเดือน ทางการเเพทย์มีรายงานเกี่ยวกับอาการแพ้ท้องว่า อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่ 50% จะมีอาการในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ จะลดลงเรื่อยๆเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อาการที่พบบ่อยๆได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ในช่วงเช้าหลังตื่นนอน บางคนมีอาการแพ้ตลอดทั้งวัน อาการแพ้ท้องดังกล่าวส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด  จากรายงานทางการแพทย์ ในคุณแม่ตั้งครรภ์ 100 คน พบว่ามีอาการแพ้ท้องรุนแรงเพียง10 คนเท่านั้น อาการแพ้ท้องรุนแรงส่งผลให้คุณแม่เกิดภาวะโลหิตจาง ขาดเกลือแร่และน้ำ เป็นอันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อยในครรภ์ สูติเเพทย์ จะพิจารณาให้ คุณแม่รายที่แพ้ท้องมากนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและให้ยาลดอาการแพ้ท้องจนกว่่าอาการจะดีขึ้น อาการแพ้ท้องรุนแรงส่งผลให้ทารกในครรภ์นำหนักตัวน้อย  เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด  เพราะฉะนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์อย่ากลัวที่จะรับประทาน ยาแก้แพ้ท้องเลยค่ะ เพราะปัจจุบันองค์กรเภสัชกรรมได้พัฒนายาที่ปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์ และใช้แก้อาการแพ้ท้อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูติแพทย์นิยมใช้ ยารักษาอาการแพ้ท้อง ที่ปลอดภัยดังต่อไปนี้

1. วิตามินบี6 ( Pyridoxine )วิตามินบี 6 หรือ เป็นวิตามินที่สามารถละลายน้ำ จะทำงานร่วมกับกลุ่มสารที่มีโครงสี้างทางเคมีคล้ายกันได้แก่ ไพริด็อกซิน ไพริด็อกซาล และไพริด็อกซามีน วิตามินบี 6จะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 8 ชั่วโมงหลังจากรับประทาน

สรรพคุณ 

• ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์
• ทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น ขณะตั้งครรภ์
• ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ในคุณแม่ตั้งครรภ์
• รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งเวลากลางคืนในคุณแม่ตั้งครรภ์
• เสริมสร้างแอนติบอดี้และเม็ดเลือดแดงในร่างกาย

ขนาดและวิธีรับประทาน

• ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ด ใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปให้รับประทานวันละ 1 ครั้ง หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

อาการไม่พึงประสงค์ จากการใช้วิตามินบี6

หลังรับปรัทาน คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมี อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ชัก อาการชาหรือเสียวแปลบที่บริเวณมือหรือเท้า ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที

แหล่งวิตามิน บี6 ตามธรรมชาติ

ไข่ ตับ ปลา กะหล่ำปลี  แคนตาลูป รำข้าว จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ถั่วลิสง ถั่วเหลือง วอลนัท  กากน้ำตาล

2. ยาไดเมนไฮดริเนต   ( Dimenhydrinate ) ยาไดเมนไฮดริเนต จะออกฤทธิ์ต้านหรือยับยั้งสารที่มีชื่อว่า Histamine ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นอา การแพ้ เช่น อาการเมารถ คลื่นไส้ แพ้ท้อง

สรรพคุณ

บรรเทา อาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการเมารถ เมาเรือ แพ้ท้อง

ขนาดและวิะีรับประทานยาไดเมนไฮดริเนตยาไดเมนไฮดริเนต

• ยาเม็ด ขนาดความแรง 50 มิลลิกรัม
• รับประทาน 1 – 2 เม็ดเมื่อมีอาการแพ้ท้อง
• รับประทาน 1 – 2 เม็ดก่อนขึ้นรถหรือเรือเป็นการเเวลาครึ่งชั่วโมงอย่างต่ำ
• ห้ามรับประทานยาเกิน 8 เม็ด/วัน

อาการไม่พึงประสงค์ของยาไดเมนไฮดริเนต

• หัวใจเต้นเร็วขึ้นหรือช้าลง เต้นแรง เต้นผิดปกติ
• เจ็บหน้าอก มองเห็นภาพไม่ชัด
• สับสน ตื่นเต้น กระสับกระส่าย วิตกกังวล
• หรือ นอนไม่หลับ
• หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
• อาการเคลื่อนไหวลำบาก มีปัญหาในการเคลื่อนไหว
• ปัสสาวะลำบาก หรือเจ็บขณะถ่ายปัสสาวะ
• ได้ยินเสียงกริ่งในหู ลมชัก ผื่นคัน หรือผื่นลมพิษขึ้นอย่างผิดปกติ
• หายใจหวีด (wheezing)

การตั้งครรภ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงของฮอร์โมน ส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์   หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้อง อย่ากังวลที่จะรับประทานยาแก้แพ้ท้องเลยค่ะ ยาบางชนิดอาจอันตรายต่อแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์จริง แต่ยาแก้แพ้ท้องที่สูติแพททย์แนะนำข้างต้น ทั้ง 2 ชนิดนี้มีผลงานการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า ยาแก้แพ้ท้องไม่ส่งผลต่อความพิการของทารกในครรภ์ คุณแม่อย่าได้กลัวจนเกินไปนะคะ เพราะหากแพ้มากแล้วไม่รักษาให้หายจากอาการแพ้ อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ หากคุณแม่ท้องมีอาการแพ้มากควรรับประทานยาร่วมกับ ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังตื่นนอน เช่น นมอุ่น น้ำเต้าหู้ น้ำขิง น้ำเปล่าผสมมะนาวและน้ำผึ้ง แบ่งมื้ออาหารออกเป็นหลายๆมื้อ กินน้อยแต่กินบ่อยครั้ง ลดอาหารที่กระตุ้นให้อาเจียน ได้แก่อาหารประเภททอด อาหารมันๆ แค่นี้คุณแม่ก็จะรับมือกับอาการแพ้ท้องได้อยู่หมัดอย่างมืออาชีพ  Mama Expert ขอให้ว่าที่คุณแม่ทุกคน มีความสุขในการตั้งครรภ์ และคลอดง่ายๆนะคะ