จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านปวงตึก ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ร้องเรียนขอความเป็นธรรม ให้กับ น.ส.สุวรรณา รักยิ่ง อายุ 28 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตลงหลังจากผ่าตัดทำคลอด จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.59 ที่ผ่านมา โดยญาติผู้ตายสงสัยในสาเหตุการตาย ในการรักษาของพยาบาลและแพทย์
จากการสอบถามสาเหตุการตายจากแพทย์ ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปราสาท และร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พร้อมทั้งจะเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านปวงตึก และยังจะไม่ทำการฌาปนกิจศพ จนกว่าทางผู้อำนวยโรงพยาบาล จะเจรจาชี้แจงสาเหตุการตายและการเยียวยาช่วยเหลือ หลังจากนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. คณะแพทย์ โรงพยาบาลปราสาท ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการรักษาและทำคลอด น.ส.สุวรรณา รักยิ่ง อายุ 28 ปี สรุปข้อมูลการดูแลรักษาผู้ป่วย จากทีมแพทย์โรงพยาบาลปราสาท ดังนี้
ผู้ป่วยหญิงอายุ 28 ปี ตั้งครรภ์ท้องแรกอายุครรภ์ 40 สัปดาห์ รับส่งต่อจากรพ.ใกล้เคียงด้วยเรื่องเบ่งคลอด 30 นาทีแล้วยังไม่คลอด มีน้ำเดินก่อนเบ่งคลอด 4 ชม.ครึ่ง โดยผู้ป่วยฝากครรภ์ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและโรงพยาบาลประจำอำเภอ ประวัติฝากครรภ์ปกติ แต่มีภาวะซีดเล็กน้อยจากการเป็นพาหะธาลัสซีเมีย มาถึงรพ.ปราสาทเวลา 21.40 น. (5 พ.ค.)
แรกรับผู้ป่วยมีไข้ต่ำๆอุณหภูมิกาย 37.8 องศาเซลเซียส สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี สูตินรีแพทย์ประเมินแล้วว่าไม่สามารถคลอดได้ทางช่องคลอดและเด็กมีการถ่ายขี้เทาเข้มขึ้นจึงตัดสินใจผ่าตัดคลอดและได้ผ่าตัดคลอดด้วยการดมยาสลบ มีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้ดูแลตลอดการผ่าตัด โดยได้มีการให้ยาปฏิชีวนะก่อนการผ่าตัดตามมาตรฐานการผ่าคลอด ทารกคลอดเวลา 22.22 น. เป็นทารกเพศ ชาย น้ำหนัก 3,370 กรัม
ขณะผ่าตัด สัญญาณชีพและค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่พบว่าน้ำคร่ำมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ จึงสงสัยภาวะน้ำคร่ำติดเชื้อ และมดลูกหดรัดตัวไม่ดี ได้ท้าการแก้ไขด้วยการให้ยาเพิ่มการหดรัดตัวของ มดลูกซึ่งผลข้างเคียงของยาอาจมีอาการ หนาวสั่น มีไข้ได้ ใช้เวลาผ่าตัดทั้งหมด 55 นาที โดยผู้ป่วยไม่มีภาวะตกเลือดมากผิดปกติ เสียเลือดทั้งหมด 600 ซีซี และได้ให้เลือดทดแทน 1 ถุง สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ที่ห้องพักฟื้น 1 ชม.
จากนั้นย้ายผู้ป่วยไปที่ตึกหลังคลอด อาการแรกรับ 00.15 น. (6 พ.ค.) ผู้ป่วยปลุกตื่น พูดคุยรู้เรื่อง มีไข้สูง อุณหภูมิกาย 39.2 องศาเซลเซียส สัญญาณชีพปกติ ได้ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาภาวะน้ำคร่ำติดเชื้อ
ต่อมา 05.20 น. ผู้ป่วยมีไข้สูงและหอบมาก ตรวจพบอุณหภูมิ 39.6 องศา ชีพจร 116 ครั้ง/นาที หายใจ 30 ครั้ง/ นาที ความดันโลหิต 138 / 89 mmHg ค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 65 % ให้การรักษาเบื้องต้นโดยให้ออกซิเจนทาง หน้ากาก ไม่ดีขึ้น ค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ประมาณ 68- 72 % ผลเอกซเรย์ปอดมีความผิดปกติ ทั้ง 2 ข้าง และผล ตรวจเลือดพบเม็ดเลือดขาวสูงมากผิดปกติ บ่งถึงการติดเชื้อที่รุนแรง
ทางทีมแพทย์ประเมินแล้วว่าผู้ป่วยมีภาวะติดเชื้อ ในกระแสเลือด และมีภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน จำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จึงให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติถึงแนว ทางการรักษา แต่ผู้ป่วยและญาติปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจ ถึง 4 ครั้ง ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ เป็นเวลานานทำให้เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยการใส่ท่อช่วยหายใจในเวลาที่เหมาะสมเป็นการรักษาที่จำเป็นและสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้
ระหว่างนี้ทางทีมแพทย์ผู้รักษา ได้ให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมเชื้อที่เป็นไปได้ (Ceftazidime 2 gm IV เวลา 6.20 น. Levofloxaxine 750 mg IV เวลา 06.30 น) และเตรียมย้ายผู้ป่วยไปที่หอผู้ป่วยหนัก (ICU)
จากนั้น เวลา 07.20 น. ผู้ป่วยมีค่าความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำลงเรื่อยๆ จนเริ่มไม่รู้สึกตัว แพทย์จึงท้ำการใส่ท่อช่วย หายใจเพื่อให้การช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย จากนั้นผู้ป่วยมีภาวะหัวใจหยุดเต้นจึงได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพเป็นเวลา 1 ช.ม. ผู้ป่วยเสียชีวิตเวลา 8.37 น. ทางทีมแพทย์ได้อธิบายสามีและญาติถึงสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้น และการผ่าพิสูจน์ศพ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตแต่ได้รับการปฏิเสธ
สรุปสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วย คือ การติดเชื้อในน้ำคร่ำ ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดอักเสบ รุนแรง ส่งผลให้มีภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว ทางโรงพยาบาลฯ ได้มีการพูดคุยเจรจากับทางนายเอกสิทธิ์อายุ 36 ปี สามีผู้ตาย และ นายโยธิน รักยิ่ง หรือ นายโทนี่ ศรีสเร็น อายุ 38 ปี นักร้องค่ายมีเดียออฟมีเดีย ซึ่งเป็นน้าชายของผู้ตาย พร้อมญาติและทนายความ เพื่อทำการเจรจาและชี้แจงถึงกรณีการรักษาและการทำคลอดให้กับนางสาวสุวรรณา ตามที่ญาติต้องการ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ ในห้องประชุมของโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวได้
ในขณะเดียวกัน นายโทนี่ ศรีสเร็น อายุ 38 ปี นักร้องค่ายมีเดียออฟมีเดีย ซึ่งเป็นน้าชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า จากการพูดคุยตนเองพร้อมญาติๆก็ยังรับไม่ได้ โดยเฉพาะการเยียวยา ซึ่งทาง ผอ.บอกว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีงบประมาณ ถ้าเป็นลักษณะแบบนี้ตนรับไม่ได้ ก็ต้องเดินเรื่องต่อไป ส่วนเรื่องศพจะนำไปผ่าพิสูจน์ที่ใดก็ยังไม่แน่ใจ ในจังหวัดสุรินทร์คงไม่ใช่ คงเป็นที่ขอนแก่น หรือ โรงพยาบาลตำรวจ ต้องดูว่าที่ไหนใกล้เพราะค่าใช้จ่ายสูงและตนก็ไม่มีเงินมาก
ที่มาจาก sanook