วันที่ 10 มี.ค.59 เวลา 12.00 น. นางเสนอ จันสร อายุ 54 ปี อสม. หมู่ 10 พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 100/823 ซอยทรัพย์บุญชัย 26 หมู่ 10 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้าดูสภาพความเป็นอยู่ ของนายวัลลภ นกแจ้ง อายุ 59 อดีตช่างแผนกสโตร์ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านบางพลี หลังประสบอุบัติเหตุตกรถสองแถว ขณะกำลังจะเดินทางไปทำงาน จนทำให้เป็นอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นานนับ 8 เดือน โดยต้องอาศัยลูกชายวัย 10 ขวบ และเพื่อนบ้านคอยดูแลความเป็นอยู่
เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวสภาพทรุดโทรม หลังคามุงสังกะสี มีรั้วรอบขอบชิด นายวัลลภ กำลังนอนอยู่บนเตียงนอนเก่าๆ สภาพแขนขาเริ่มลีบไม่มีเรี่ยวแรง และมีอาการปวดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังเวลาขยับตัวช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย สามารถลุกขึ้นนั่งและใช้มือตักอาหารเข้าปากได้บ้าง แต่ก็เป็นไปอย่างลำบากเนื่องจากข้อแขนงอเข้าไม่ถึงปาก โดยมี ด.ช.วรฉัตร นกแจ้ง หรือน้องม่อน อายุ 10 ขวบ ซึ่งขณะนี้กำลังเรียนอยู่ ชั้น ป.6 รร.เทศบาล 1 (ในระบบสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง) ให้การดูแลและคอยพยุงป้อนน้ำป้อนข้าว เช็ดตัวให้ผู้เป็นพ่อ อย่างใกล้ชิด
นายวัลลภ กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน ส่วนภรรยาได้เลิกราไปกว่า 5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อกลางปี 58 ขณะที่ตนกำลังที่จะขึ้นรถสองแถวไปทำงาน หลังจากที่ก้าวเท้าขึ้นรถสองแถวแต่ยังไม่ทันจับราวเหล็ก รถสองแถวคัน ดังกล่าว ได้เคลื่อนรถออก จนทำให้ตนนั้นเสียหลักล้มหงายหลังกระแทกพื้นอย่างแรง ทำให้ได้รับผลกระทบบริเวณกระดูกสันหลัง จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ต้องลาออกจากงานเพื่อมานอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุทางเจ้าของรถสองแถวก็ไม่ได้มาเยียวยาตนเลย แต่ดียังได้ลูกชายวัย 10 ขวบ ซึ่งขณะนี้เรียนอยู่ ชั้น ป.6 รร.เทศบาล 1 (ในระบบสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง) เป็นคนคอยดูแลหาข้าวปลาให้กิน และได้ใบบุญจากเพื่อนบ้านที่ยังไม่ทิ้งกัน คอยประสานกับทางเทศบาล เมืองปากน้ำ นำเงินมาช่วยเหลือเรื่องอาหารการกิน รวมทั้งช่วยเหลือในเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ทุนการศึกษาลูกชายได้เล่าเรียน ทำให้ตนและลูกชายพอที่จะลดความเดือดร้อนลงไปบ้าง
ทั้งนี้ สำหรับบ้านหลังดังกล่าว ตนก็ได้เอาไปจำนอง กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งอีกไม่นานก็จะถูกยึด ซึ่งเป็นห่วงว่าหากไม่สามารถกลับเดินได้ตนกับลูกชายก็จะไม่ที่พักอาศัย จึงอยากวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องการทำกายภาพบำบัดเพื่อทำให้ตนกลับมา เดินได้อีกเพื่อที่จะออกไปทำงานหาเงินมาไถ่ถอนบ้านและดูแลลูกชายต่อไป
ด.ช.วรฉัตร กล่าวว่า ตนอยากให้พ่อกลับมาเดินได้เป็นปกติเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากไม่อยากเห็นพ่อทนอยู่กับสภาพเช่นนี้ สงสารพ่อมากแต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มาก และที่สำคัญบ้านก็กำลังจะถูกยึดจึงอยากให้พ่อกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมเพื่อที่จะช่วยกันหาเงินมาไถ่ถอนบ้าน จึงอยากวอนผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือพ่อด้วย ส่วนอนาคตตนอยากจะเป็นวิศวกร เนื่องจากเป็นอาชีพที่ชอบ มีรายได้ดีและสามารถเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ดีกินดีได้
ด้านนางเสนอ จันสร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ด.ช.วรฉัตร นกแจ้ง หรือน้อง ม่อน ลูกชายของนายวัลลภ ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนดังกล่าว ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากทางเทศบาลเมืองปากน้ำ ว่าพ่อของตนประสบอุบัติเหตุไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทางเทศบาลจึงได้มอบหมายให้ตน เข้ามาดูแลเรื่องความเป็นอยู่และ เมื่อเข้ามาแล้ว ตนได้รับรู้สภาพปัญหาชีวิตความลำบากของครอบครัวนี้ และรู้สึกสงสารมากพยามยามประกาศเสียงตามสายเพื่อรับเงินบริจาคจากชาวบ้านที่ต้องการยื่นมือช่วยเหลือเท่าที่จะมีกำลัง โดยที่ผ่านมาก็ได้รับเงินจากชาวบ้านและทางเทศบาลบ้างแต่ก็ไม่ได้มากอะไร ซึ่งตนนั้นก็ไม่รู้จะช่วยได้นานแค่ไหนเพราะเงินที่ได้มาก็เริ่มหมดไปทุกวันถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้นายวัลลภหายเป็นปกติและช่วยเหลือตัวเองได้ สำหรับท่านใดที่มีจิตเมตตาสามารถบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือได้โดยติดต่อที่เบอร์โทร 089-822-9052
ขอบคุณ : ข่าวสด
