กรณี ด.ช.บอย (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ของโรงเรียนใน จ.สุพรรณบุรี ออกเก็บผักตามไร่-นาแล้วถูกไฟฟ้าช็อตร่างเกรียมสาหัส จนภายหลังแพทย์ต้องตัดแขน-ขา รักษาอาการ ขณะที่ผู้ปกครองร้องตำรวจให้หาตัวผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสองพี่น้อง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี มารดาของ ด.ช.บอย เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายที่ผานมาแพทย์ได้ผ่าตัดเอาแขนขวาข้างที่เหลือของลูกชายออกอีก 1 ข้าง โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง หลังผ่าตัดอาการปลอดภัยดี แต่ลูกชายมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โดยเม็ดเลือดขาวเริ่มมีปริมาณต่ำลงทำให้มีไข้สูงใบหน้าเริ่มบวมขึ้นมาอีก ส่วนตัวเข้าใจดีว่าวันนี้ที่เขาต้องถูกตัดแขนข้างที่เหลือ เพื่อช่วยเหลือชีวิตเอาไว้ เพราะเซลล์เนื้อเริ่มตาย แพทย์ต้องตัดสินใจตัดแขนอีกข้างทิ้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทั้งนี้ก่อนผ่าตัดตนถามลูกชายว่า ยังสู้ใช่ไหมเขาพยักหน้า ส่วนตนสงสารลูกมากได้แต่มองหน้าลูกแล้วน้ำตาไหลออกมาเอง เขาแข็งแกร่งเสมอ ต่อจากนี้ไปครอบครัวเราจะสู้ไปกับเขา สู้ไปกับหมอ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ
ภายหลังนางน้อยได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.วิเชียร ยางงาม สวญ.สภ.บางตาเถร และพ.ต.ต.ณัฐวัฒน์ พลเยี่ยม สวส. ร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะเดียวกันทางรูปคดีนั้น ทางตำรวจ แจ้งว่า สำนวนในคดีคืบหน้าไปมาก คาดว่าอีกประมาณ 1 อาทิตย์ก็จะสามารถสรุปสำนวน ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของตามกฎหมายต่อไป.
ที่มาจาก เดลินิวส์