ลูกมีความพิการทางสติปัญญา เกิดขึ้นได้อย่างไร ป้องกันได้หรือไม่ รักษาหายไหม

22 February 2012
2849 view

 

สาเหตุของความพิการทางสติปัญญามี 3 ประการ คือ

1. กรรมพันธุ์ (genetic factor)
2. ชีวภาพ (biological factor)
3. สิ่งแวดล้อม (environmental factor)

1. สาเหตุจากกรรมพันธุ์

เป็นความผิดปกติที่ได้รับการถ่ายทอดมาแต่กำเนิดทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญา ร่วมกับความพิการทางกาย สาเหตุทางกรรมพันธุ์พบไม่เกินร้อยละ 40 ของสาเหตุความพิการทางสติปัญญา และมีหลายประเภท ความพิการทางสติปัญญา ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ได้แก่ ดาวน์ซินโดรม ( down syndrome)
เป็นโรคที่พบบ่อย บุคคลประเภทนี้มีความพิการทางสติปัญญาหรือปัญญาอ่อนตั้งแต่ระดับปานกลาง ถึง
ขนาดหนัก ซึ่งพบบ่อยในมารดาที่อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป และพบได้มากกว่ามารดาที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี

2. สาเหตุทางชีวภาพ

ได้แก่สาเหตุที่เกิดจากสิ่งต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อชีวิตคนเราเป็นผลให้สมองหยุดชะงักซึ่งเกิดขึ้น


ในระหว่างการเจริญเติบโตในระยะใดระยะหนึ่ง เช่น ขณะที่กำลังตั้งครรภ์ ขณะคลอด และขณะหลังคลอด


2.1 ขณะตั้งครรภ์ สาเหตุของความพิการทางสติปัญญาในขณะตั้งครรภ์ได้แก่

  •  สุขภาพมารดาไม่ดี มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต โรคโลหิตจาง
    โรคขาดสารอาหาร ฯลฯ สุขภาพของมารดาเป็นสิ่งสำคัญในขณะตั้งครรภ์ โรคแทรกระหว่าง
    ตั้งครรภ์มักจะทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด และมีโอกาสพิการทางสติปัญญาได้
  • มารดาติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ เช่น เชื้อหัดเยอรมัน การติดเชื้อในระยะ 3เดือนแรก มักจะมีอันตราย
    ต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ เป็นสาเหตุของการเกิดความพิการทางสติปัญญาได้ เชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น
    เชื้อซิฟิลิส ต้องรีบให้การรักษา เพราะผ่านจากมารดาไปสู่เด็กได้โดยทางกระแสโลหิต ทำให้เด็กเกิด
    อาการ ซิฟิลิสแต่กำเนิด และอาจทำให้คลอดก่อนกำหนด โรคนี้ป้องกันได้โดยตรวจเลือดของมารดา
    ถ้าพบควรรีบรักษาให้ทันท่วงที
  • มารดาได้รับสารพิษขณะตั้งครรภ์ เช่น ยาบางอย่างอาจทำให้เด็กที่อยู่ในครรภ์ เกิดความพิการได้
    ฉะนั้นมารดาควรระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องการรับประทานยาเอง ควรหลีกเลี่ยงให้น้อยที่สุด
    โดยเฉพาะยา จำพวกควินินหรือเตอร์ก๊อท ซึ่งมีฤทธิ์บีบมดลูกและขับเลือดซึ่งอาจทำให้แท้งได้
    ยารักษาโรคเบาหวานและยาจำพวกคอร์ติโซมในสัตว์ ทดลองพบว่าทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิดได้
  •  ยาจำพวกสารเสพย์ติด เช่น กัญชา เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแท้งได้ นอกจากนี้มารดา
    ควรหลีกเลี่ยงสารพิษจำพวกตะกั่ว สารหนู ซึ่งทำให้เกิดโรคสมองจากพิษตะกั่วได้ การป้องกัน
    อีกทางหนึ่งคือ ต้องไม่ให้เด็กเล่นของเล่นที่พ่นสีซึ่งมีตะกั่วผสมอยู่
  • การสูบบุหรี่มาก ๆ หรือดื่มสุราเป็นประจำขณะตั้งครรภ์ เชื่อกันว่าจะทำให้เกิดการคลอดก่อน
    กำหนดหรือแท้งหรือมีความพิการแต่กำเนิด
  • มารดาได้รับความกระทบกระเทือนขณะตั้งครรภ์ เช่น หกล้มก้นกระแทกแรง ๆ อาจแท้งได้อาจ
    มีรกบางหรือรกมีการลอกตัวทำให้เส้นโลหิตที่จะนำอาหารและออกซิเจน ไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
    ก่อให้เกิดความพิการทางสติปัญญาได้
  •  มารดาขาดสารอาหารที่มีคุณค่า โดยปกติในระยะหลังการตั้งครรภ์ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้น ไปเป็นระยะ
    ที่สมองทารกที่อยู่ในครรภ์กำลังเจริญเติบโต จึงต้องการอาหารที่มีคุณค่าไปบำรุงเลี้ยงสมอง
    โดยเฉพาะอาหารประเภทโปรตีน มารดาที่ตั้งครรภ์ควรจะต้องรับประทานเป็น 2 – 3 เท่าของ
    คนปกติ ถ้ามารดาสุขภาพไม่ดีและอดอาหารเหล่านี้จะทำให้เซลล์สมองทารกหยุดการแบ่งตัว
    เป็นผลให้มี สติปัญญาด้อยกว่าปกติ
  • การขาดแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก ทำให้เกิดโลหิตจาง ร่างกายและสมองเจริญเติบโตช้า การขาดวิตามิน
    โดยเฉพาะกรดนิโคตินิค (nicotenic acid) อาจทำให้พิการทางสติปัญญาได้ การขาดวิตามินบี 6
    อาจทำให้ ทารกเกิดการชักและภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ถ้าต่ำมากถึง 40 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะทำให้
    เกิดความพิการ ทางสติปัญญาหรือปัญญาอ่อนได้

2.2 ขณะคลอด ทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญาได้โดย

  • การคลอดที่ผิดปกติ การคลอดก่อนกำหนด ถ้าคลอดก่อนตั้งครรภ์ 37 วัน เด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนักตัว
    ต่ำกว่า 1,500 กรัม ซึ่งเกิดความผิดปกติทั้งทางร่างกายและสมอง เป็นผลให้มีความพิการทาง
    สติปัญญา หรือโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ ได้ เช่น เด็กที่เป็นอัมพาตเนื่องจากสมองพิการ
    (cerebral palsy) มีความผิดปกติทางการพูด การได้ยิน และการฟัง ยิ่งน้ำหนักตัวแรกเกิด
    น้อยยิ่งมีโอกาสที่สมองจะถูกทำลายได้
  • การคลอดเกินกำหนด จะทำให้คลอดยากและลำบาก อาจทำให้สมองขาดออกซิเจนได้เพราะ
    สมองเด็กถูกกดอยู่นานเกินไป
  • รกเกาะต่ำและลอกตัวก่อนกำหนด ทำให้มีการเสียเลือดมากและสมองขาดออกซิเจน
  • มารดาที่ได้รับยากล่อมประสาท หรือยาระงับความเจ็บปวดที่ทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ จะทำ
    ให้สมองของทารกขาดออกซิเจน หายใจไม่สะดวก ซึ่งเกิดขึ้นขณะคลอด
  • ขณะหลังคลอด ทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญาได้โดย
  • เด็กขาดสารอาหารที่มีคุณค่า โดยเฉพาะสารอาหารประเภทโปรตีนซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริม
    สร้างเซลล์สมอง ทำให้สมองเหี่ยวและตายไป เกิดความพิการทางสติปัญญาได้
    ดังนั้นในเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 5 ปีควรจะได้รับอาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
  • เด็กขาดภูมิคุ้มกันโรค ถ้าสุขภาพไม่ดี อาจติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายหลังคลอด เช่น เชื้อวัณโรค นิวมอเนีย
    เชื้อไวรัส อาจลุกลามขึ้นสมองทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเนื้อสมองอักเสบหรือเป็นฝีในสมองการให้ภูมิคุ้มกันโรค เช่น วัคซีนป้องกันไอกรน คอตีบ บาดทะยัก โปลิโอ และฝีดาษ ควรให้ในระยะที่เหมาะสม เช่นไม่ควรให้ในขณะที่เด็กกำลังเป็นไข้ หรือมีแผลพุพองตามตัว จะทำให้ลุกลามขึ้นสมองเป็นผลให้สมองอักเสบได้
  • สมองเด็กได้รับความกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ เช่น ตกจากที่สูง ๆ หรือถูกรถชน อาจทำให้
    กระโหลกศีรษะแตกร้าว มีเลือดออกในสมอง และมีก้อนเลือดกดเนื้อสมอง ทำให้เนื้อสมองถูกทำลาย
    กลายเป็นปัญญาอ่อนได้
  •  อาการตัวเหลืองในทารกแรกคลอด อาจเกิดขึ้นได้ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด จากภาวะนี้ทำให้มี
    ระดับนิสิรูบินในเลือดสูงเนื่องจากมีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง พบได้บ่อยในพวกที่กลุ่มเลือด
    แม่กับลูกไม่พึงผสมผสารกัน ถ้าทารกมีตัวเหลืองในระยะ 3 วันหลังคลอดมักเกิดจากการติดเชื้อ เช่น
    สายสะดือเน่า จะทำให้มีระดับนิสิรูบินในเลือดสูง การวินิจฉัยได้เร็ว และทำการถ่ายเลือดได้ทัน
    ท่วงทีจะช่วยลดอัตราการทำลายของสมองได้
  •  เนื้องอกของสมองและเส้นโลหิต ทำให้มีการกดเนื้อสมองและมีการทำลายสมองเกิดขึ้น เด็กอาจมี
    อาการชัก ทำให้เกิดความพิการทางสติปัญญาได้

3. สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม

ในที่นี้หมายถึงสิ่งแวดล้อมมีส่วนช่วยให้เกิดการเรียนรู้ ในครอบครัวที่พ่อแม่มีฐานะยากจน ขาดการศึกษาไม่มีความรู้จะสอนลูกและกระตุ้นลูก ทำให้เด็กขาดการเรียนรู้ จึงเป็นเด็กด้อยโอกาสเพราะขาดประสบการณ์

  • พิการทางสติปัญญาเนื่องจากขาดการกระตุ้นทางจิตใจและสังคม (psychosocial disadvantage)
    เช่น ครอบครัวอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ห่างไกลวัฒนธรรมและสังคม พบมากในผู้พิการทางสติปัญญา
    ที่เป็นระดับเล็กน้อย มีเชาวน์ปัญญาต่ำไม่มากนัก มักจะพบในพ่อแม่ที่ข้างใดข้างหนึ่ง มีเชาวน์ปัญญาต่ำ
    และพี่น้องในครอบครัวเดียวกันหนึ่งคนหรือมากกว่าหนึ่งคนก็มีเชาวน์ปัญญาต่ำด้วย พบว่า มีสาเหตุมา
    จากหลาย ๆ อย่างด้วยกัน อาจเป็นกรรมพันธุ์ ขาดอาหารขณะตั้งครรภ์หรือหลังคลอด พ่อแม่มีฐานะยากจน
    ขาดการศึกษา ไม่มีความรู้ที่จะฝึกสอนลูกให้เกิดการเรียนรู้ได้ ทำให้เด็กกลายเป็นปัญญาอ่อนได้ในที่สุด
  •  พิการทางสติปัญญาเนื่องจากขาดการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม (sensory deprivation)
    ในวัยทารกและวัยเด็กมักถูกทอดทิ้ง เช่น ถูกขังอยู่ในเปลขณะพ่อแม่ไปทำงาน หรือเกิดจากมีความบกพร่อง
    ในการกระตุ้นประสาทสัมผัสเช่น ตาบอด หูหนวก พวกนี้จะมีความพิการทางสติปัญญามากกว่าครอบครัว
    ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ