อาหารเร่งคลอด มีอะไรบ้าง? และเคล็ดลับที่จะทำให้คลอดง่าย

28 June 2023
826 view

อาหารเร่งคลอด

.

.

การคลอดลูกตามระยะเวลาที่กำหนดหรือตามระยะเวลาที่เหมาะสมจัดเป็นการคลอดลูกที่สร้างความปลอดภัยและความอุ่นใจให้ทั้งกับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ แต่หากถึงกำหนดคลอดหรือเลยกำหนดคลอดมาแล้ว แต่ลูกน้อยของคุณแม่ยังไม่มีท่าทีที่จะออกจากครรภ์ของคุณแม่ก็อาจจะนำมาซึ่งความกังวลให้กับคุณแม่และครอบครัวได้ คุณแม่และครอบครัวจึงมักต้องหาวิธีการรวมถึงอาหารที่สามารถช่วยเร่งให้เกิดการคลอดของคุณแม่ได้ เพื่อมาช่วยให้คุณแม่สามารถคลอดได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม สำหรับบทความนี้เราจึงขอมาแนะนำอาหารเร่งคลอดของคุณแม่ตามธรรมชาติ และเคล็ดลับเร่งคลอดธรรมชาติ

อาหารเร่งคลอด มีอะไรบ้าง

ก่อนอื่นคุณแม่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการเร่งคลอดนั้น สามารถทำได้หากคุณแม่มีอายุครรภ์ประมาณ 40 สัปดาห์แล้ว แต่คุณแม่ยังไม่มีวี่แววว่าจะคลอดหรือปวดท้องคลอดเลย และคุณแม่ที่จะทำการเร่งคลอดก็ควรปรึกษากับแพทย์ที่ทำการฝากครรภ์ก่อนด้วย ในส่วนนี้คุณแม่และครอบครัวสามารถเร่งคลอดธรรมชาติได้จากการรับประทานโดยอาหารเร่งคลอดก็มีดังนี้

- มะละกอ จัดเป็นผลไม้ที่สามารถเป็นอาหารเร่งคลอดที่เรามาแนะนำในบทความนี้ โดยเฉพาะมะละกอสุกที่มีเอนไซม์ปาเปนที่ทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับการคลอดซึ่งก็คือฮอร์โมนพรอสตาแกลนดินและฮอร์โมนออกซิโตซินที่ทำหน้าช่วยกระตุ้นการหดตัวของมดลูก จึงช่วยเร่งการคลอด การรับประทานมะละกอจึงเป็นการช่วยเร่งการคลอดได้นั่นเอง

- สับปะรด สำหรับอาหารเร่งคลอดชนิดที่สองที่เราแนะนำกันในบทความนี้ยังคงอยู่ในโหมดของผลไม้ โดยสับปะรดประกอบด้วยเอนไซม์โบรมีเลนที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณมดลูก และ ช่วยทำให้มดลูกนิ่มขึ้น การรับประทานสับปะรดจึงช่วยเร่งคลอดได้ แต่คุณแม่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะการรับประทานสับปะรดมากเกินไป จะทำให้คุณแม่ปวดท้องหรือท้องเสีย ซึ่งเป็นอันตรายทั้งต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้

- อินทผลัม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่จัดเป็นอาหารเร่งคลอด เพราะมีองค์ประกอบที่คล้ายคลึงกับฮอร์โมนออกซิโทซินที่ช่วยให้เกิดการคลอดในเพศหญิง

- Evening Primrose Oil ซึ่งประกอบด้วยโพรสตาแกลนดินที่ช่วยให้เกิดการบีบตัวของมดลูก ทำให้มดลูกเกิดการหดเกร็ง แล้วนำมาซึ่งการคลอด 

- น้ำมันละหุ่ง ที่สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารได้หลากหลาย และยังช่วยให้มดลูกแข็งแรง จึงเป็นน้ำมันมหัศจรรย์ที่มักมีติดบ้านไว้ สำหรับเหล่าคุณแม่

- มะเขือม่วง ซึ่งเป็นผักที่อุดมไปด้วยโฟเลตในปริมาณที่สูง ช่วยในการสังเคราะห์ DNA และช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงที่ล้วนส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์และช่วยเร่งคลอดได้อีกด้วย

เคล็ดลับคลอดง่าย ที่คุณแม่ต้องรู้

เมื่อเราทราบกันแล้วว่าอาหารชนิดใดจัดเป็นอาหารเร่งคลอดตามธรรมชาติแล้ว ถัดมาเราก็ขอมาแนะนำเคล็ดลับคลอดง่ายที่จะช่วยให้คุณแม่หมดความกังวลเรื่องการคลอดลูกกัน ดังนี้

1. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยคุณแม่ควรนอนอย่างต่ำวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้คลอดได้ง่ายขึ้น

2. ออกกำลังกายสำหรับคนท้อง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ในท่วงท่าที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการเคลื่อนที่เคลื่อนตัวของร่างกายแล้วนำมาซึ่งสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ที่ดี ส่งผลให้คลอดลูกได้โดยง่าย

3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน

4. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

5. การมีเพศสัมพันธ์แบบอ่อนโยนซึ่งช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลาย และช่วยให้เกิดการเกร็งของมดลูก นำไปสู่การคลอดที่ง่ายขึ้น

6. การสัมผัสร่างกายคุณพ่อ ในข้อนี้อาจทำเมื่อคุณแม่ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับคุณพ่อได้ เพราะครรภ์มีความเสี่ยงจากการแท้งคุกคาม หรือ คุณแม่ท่านอื่น ๆ ก็สามารถสัมผัสคุณพ่อเพื่อให้คลอดง่ายขึ้น เพราะการสัมผัสไม่ว่าจะเป็นการจับมือหรือการโอบกอดจะช่วยให้คุณแม่เกิดความสบายใจ แล้วนำไปสู่การสบายกายทำให้คลอดได้ง่ายนั่นเอง

7. การฝึกสมาธิที่มีส่วนช่วยให้คุณแม่ทราบสภาวะของร่างกายสามารถพิจารณาตน แล้วนำไปสู่การคลอดตามระยะที่เหมาะสมได้

8. แช่น้ำอุ่นหรืออาบน้ำอุ่น ซึ่งช่วยให้ร่างกายของคุณแม่เกิดการผ่อนคลาย เมื่อร่างกายผ่อนคลายแล้วก็นำมาสู่จิตใจที่ผ่อนคลายตามไปด้วย ทำให้คุณแม่คลอดได้ง่ายอย่างเป็นธรรมชาติ

9. ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอซึ่งจะทำให้เกิดการถ่ายเบา นับเป็นหนึ่งในการบีบตัวของมดลูกจึงทำให้ลูกน้อยคลอดได้ง่าย และเคล็ดลับข้อนี้ยังมีข้อควรระวังคือการเข้าห้องน้ำของคุณแม่ต้องระวัดระวังการลื่นที่นำไปสู่อันตรายทั้งต่อคุณแม่และลูกน้อยได้

สำหรับบทความข้างต้นเราจะพบว่าคุณแม่บางท่านอาจมีความจำเป็นต้องใช้การเร่งคลอด ในส่วนนี้ก็สามารถปรึกษากับแพทย์เพื่อใช้วิธีทางการแพทย์ได้ และสามารถใช้เคล็ดลับเร่งคลอดธรรมชาติที่เราได้ให้ไว้ในบทความ รวมถึงสามารถใช้วิธีง่าย ๆ อย่างการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารเร่งคลอดที่เราได้กล่าวไปในบทความอีกเช่นกัน แต่ทั้งนี้ไม่ว่าคุณแม่จะใช้วิธีการหรือเคล็ดลับใด ๆ ก็ต้องปรึกษากับแพทย์และเลือกตามความเหมาะสมเพื่อให้เหมาะกับสุขภาพของคุณแม่แต่ละท่าน และเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยในครรภ์ 

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. 8 เรื่อง ที่แม่ท้องผ่าคลอดสงสัย และไม่เคยรู้มาก่อน !!!

2. อาการท้องแข็ง มดลูกแข็ง หรือ ลูกโก่งตัว แยกอย่างไร แบบไหนต้องรีบพบแพทย์

3. เจ็บครรภ์คลอด เจ็บท้องคลอดลูก เป็นอย่างไร ? และ 5 สัญญาณเตือนว่าใกล้คลอดแล้ว

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team