ผลไม้สำหรับเด็ก 6- 12 เดือน คุณแม่เตรียมให้ถูกและเลือกให้เป็น

18 May 2014
246689 view

ผลไม้สำหรับเด็ก 6- 12 เดือน


การเลือกผลไม้สำหรับเด็ก 6- 12 เดือน

ลูกน้อยของคุณแม่จะพร้อมหม่ำมื้อแรกเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป การเจริญเติบโตตามวัย คุณแม่จะสังเกตได้ว่า ลูกน้อยเริ่มมีฟันขึ้นแล้ว 2 ซี่ล่าง ส่วนบ้านไหนยังไม่ขึ้นอย่าเพิ่งตกใจนะคะ รอได้ ถึง 1 ปีค่ะ หนูน้อยเริ่มจะมีอาการมันเขี้ยวให้เห็นคืออาการอยากจะกัด น้ำลายยืดๆการให้อาหารเสริมหรือผลไม้จึงเป็นการลดอาการมันเขี้ยวอยู่ตลอดเวลาของลูกให้ลดลงได้ค่ะ ผลไม้ส่วนมากอุดมไปด้วยธาตุอาหารและวิตามินที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย แต่ใช่ว่าผลไม้ทุกอย่างจะเหมาะกับเด็กทุกคนนะคะ  การเคี้ยวกลืน และน้ำย่อยในกระเพาะของเด็กแต่ละวัย รับผลไม้หรืออาหารอย่างอื่นได้ต่างชนิดกันค่ะ เรามาดูกันว่า ผลไม้ชนิดไหนเหมาะกับลูกของเราในแต่ละช่วงวัยและควรให้รับประทานแบบไหนดีตามนี้ค่ะ

ผลไม้สำหรับเด็ก 6- 12 เดือน ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

  1. กล้วยกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม มีคุณสมบัติย่อยง่าย มีใยอาหารแบบละลายน้ำ ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย โดยเฉพาะกล้วยที่สุกจัด จะมีรส หวานและโพแทสเซียมสูง
  2. ส้มทุกชนิด วิตามินซีในน้ำส้มช่วยการดูดซึมธาตุเหล็ก ตอนที่คุณแม่ป้อนส้มให้ลูก อาจจะเห็นลูกน้อยกะพริบตาถี่ๆ เมื่อลิ้มลอง เพราะส้มมีกรดซิทริคทำให้มีรสเปรี้ยวอ่อน ๆ และภาวะความเป็นกรดจะช่วยให้การย่อยโปรตีนจากนมดีขึ้น
  3. แตงโม เป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะ รสหวานอ่อน ๆ ทำให้ลูกสดชื่น และเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี อีกทั้งมีวิตามินเอด้วย
  4. มะม่วงสุก อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนช่วยบำรุงสายตา มีแอนติออกซิแดนท์ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ด้วย
  5. อโวคาโด ผลไม้มากคุณค่าเหมาะมากๆสำหรับลูกรัก มีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม มีวิตามินอี และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะหัวใจ แต่อโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันสุงคุณแม่จึงควรจำกัดให้นับประมาณในปริมาณที่พอเหมาะ หรือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งค่ะ

วิธีการเตรียมผลไม้สำหรับเด็ก 6- 12 เดือน ที่หลากหลาย

  1.  วิธีคั้นน้ำ เหมาะกับผลไม้ประเภทที่มีเส้นใย เช่น ส้มเช้ง ส้มเขียวหวาน และแตงโม
  2.  วิธีครูดและบด เหมาะสำหรับผลไม้เนื้อสุกนิ่ม กากใยน้อย เช่น มะม่วงสุก มะละกอสุก และอโวคาโด
  3.  วิธีปั่นปั่น เลือกผลไม้ที่มีน้ำเยอะ กินได้ทั้งน้ำและเนื้อ เช่น สาลี่ กีวี่ แอปเปิล และองุ่น ก่อนปั่นควรปอกเปลือก และอาจจะใส่น้ำสุกเพิ่ม แต่การปั่นในโถปั่นอาจมีฟองอากาศผสมเข้าไป ทำให้คุณค่าอาหารอาจลดน้อยลง และลูกอาจมีลมในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น หลังกินควรมีกิจกรรมให้ลูกทำบ้าง
  4. วิธีหั่นชิ้นเล็ก เหมาะกับผลไม้ทุกชนิด เช่น มะละกอ กล้วย ส้ม อะโวคาโด มะม่วงสุก แตงไทย และองุ่น แต่ผลไม้ที่มีเปลือกบางๆ เช่น องุ่นและส้ม คุณแม่ควรลอกเปลือกและแกะเมล็ดออกให้เรียบร้อย
  5. วิธีหั่นเป็นแท่ง มักใช้กับผลไม้ที่นิ่มปานกลาง และไม่เละ เช่น มะม่วง ชมพู่ สาลี่ แอปเปิ้ล และฝรั่ง เพราะลูกจะสามารถจับถือกินเองได้

ผลไม้สำหรับเด็ก 6- 12 เดือน

การเลือกผลไม้และวิธีรับประทานที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญ เพราะถึงคุณแม่จะเลือกผลไม้และเตรียมผลไม้ให้เหมาะกับแต่ละชนิดแล้ว แต่การเลือกผลไม้ให้ลูกแต่ละวัยกิน ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับพัฒนาการเคี้ยวกลืนของเจ้าตัวเล็กด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าว่า ลูกวัยไหนกินผลไม้อะไร และควรกินแบบไหน

  • หนูน้อยอายุ 6-8 เดือน ผลไม้ที่ลูกกินควรเป็นผลไม้บด ยี หรือครูด ถ้าคุณแม่บดผลไม้ผ่านตะแกรง จะทำให้มีน้ำมากกว่าเนื้อ ก็อาจจะผสมเนื้อผลไม้รวมลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความข้นหนืด เพราะลูกวัยนี้เริ่มมีทักษะในการใช้ลิ้นตวัดอาหาร และแตะเพดานปากดีขึ้น ลูกจะสามารถกลืนอาหารได้โดยไม่สำลัก
    ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน : ควรเริ่มจาก 2–3 ชิ้นเล็ก ๆ จนกระทั่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นถึง 2 ช้อนโต๊ะ

  • หนูน้อย อายุ 8-10 เดือน เจ้าตัวเล็กที่บ้านเริ่มมีฟันเพิ่มขึ้นแล้วล่ะค่ะ คุณแม่ควรเลือกผลไม้ที่มีเนื้อนุ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็ก ให้เจ้าตัวเล็กได้ทดสอบความสามารถของฟัน และคุ้นชินกับอาหารที่มีลักษณะหยาบขึ้น
    ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน : ผลไม้หั่นชิ้นเล็กประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำผลไม้คั้นสด 2–4 ออนซ์

  •  หนูน้อยอายุ 10-12 เดือน  เจ้าตัวเล็กมีฟันขึ้นเยอะมากกว่าเดิม และเริ่มขบเคี้ยวอาหารจากฟันหน้า เพราะฉะนั้นผลไม้ที่เด็กวัยนี้กินได้ควรเป็นผลไม้เนื้อนิ่มปานกลาง คุณแม่อาจจะหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หรือเป็นแท่งให้ลูกจับถือกินเอง
    ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน : ประมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะ ถ้าเป็นน้ำผลไม้คั้นสดประมาณ 2–4 ออนซ์

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีผลไม้ที่คุณแม่ต้องระวังอย่างมาก ถ้าเป็นไปได้ควรงดดีกว่า ได้แก่ ผลไม้ที่มียางหรือเมล็ดเล็กๆเสี่ยงต่อการหลุดเข้าไปในคอ อุดกั้นหลอดลมได้ค่ะ ในหนึ่งวันลูกควรได้รับผลไม้ 2-3 ชนิด เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วนค่ะ

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

1. ซุปไก่บร็อคโคลี่

2. เมนูลูกรักแช่แข็ง คุณค่าอาหารยังคงอยู่มากน้อยแค่ไหน

3. วิธีอุ่นอาหารแช่เย็น/แช่แข็ง ที่ถูกหลักอนามัย

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team