หญิงเมียนมาร์สุดโหด ใช้มีดปาดคอลูกหลังทำคลอดเองในบ้านนายจ้าง กลัวคนรู้ใช้กระดาษยัดปากทารก ก่อนลงมือฆ่าลูกในใส้ โดยใช้เสื้อคลุมห่อร่างทารก และภายในถุงห่ออีกหนึ่งชั้นมีสิ่งของคล้ายการทำพิธีสะกดวิญญาณ รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นอย่างไรไปติดตามกับ Mamaexpert กันเลยค่ะ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์ข่าวไทยรัฐรายงานว่า เวลาประมาณ 00.10 น. (21 มิ.ย. 62) ที่ผ่านมา ร.ต.อ.แวนร์ จิตรจารุวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเหตุว่ามีผู้พบศพเด็กทารกเพศชาย นำมาส่งที่ สน.บึงกุ่ม จึงได้ประสานแพทย์นิติเวช รพ.ตร. และมูลนิธิร่วมกตัญญู
เบื้องต้นทราบว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ของวานนี้ (20 มิถุนายน 2562) หญิงชาวเมียนมาร์ได้คลอดลูกในห้องพัก ภายในบ้านนายจ้าง ซอยนวมินทร์ 70 แยก 5-4 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ แต่กลัวคนรู้จึงใช้กระดาษอุดปากทารก ก่อนใช้มีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 4 นิ้ว แทงทะลุและปาดคอทารกจนเสียชีวิต จากนั้นใช้เสื้อคลุมห่อร่างทารก และห่อด้วยผ้าอีก 3 ชั้น พร้อมด้วยซ้อนถุงดำอีก 3 ใบ โดยทิ้งไว้ภายในห้องพักของตน แต่ต่อมามีการเสียเลือดมาก จึงขอให้นายจ้างไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตน์
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลทางแพทย์ได้ตรวจสอบ และสอบถามจนได้รับการสารภาพว่าเธอได้คลอดลูก และลงมือฆ่าลูกไปแล้ว เมื่อนายจ้างกลับไปที่บ้านพบศพทารกเพศชายคนดังกล่าว และนำศพทารกไปให้ตำรวจที่ สน.บึงกุ่ม และหญิงเมียนมาร์ยังคงพักรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ
ด้านนายจ้าง ให้การว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นลูกจ้างของตนมีใบอนุญาตถูกต้อง ส่วนสาเหตุที่ทำให้สาวใช้ลงมือฆ่าลูกตนเอง อาจมาจากความเครียด เนื่องจากพึ่งเลิกกับสามี จากการตรวจสอบภายในห่อผ้าพบมียาเส้น หมากพลู ขนม ใบไม้ 3 ใบ ลักษณะคล้ายกับการสะกดวิญญาณ ที่ห่อรวมมากับศพทารก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนหญิงเมียนมาร์อีกครั้งก่อนสรุปสาเหตุเพื่อดำเนินคดีต่อไป
กรณีการปิดบัง หรือฆ่าทารกเพราะกลัวคนอื่นรู้มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ครั้งนี้เป็นอีกเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ และน่าสยดสยอง กับวิธีการลงมือฆ่าที่ไม่คิดว่าคนเป็นแม่จะสามารถลงมือกระทำกับลูกในใส้ได้ ถึงอย่างไรไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะมาจากเรื่องใด แต่การกระทำที่รุนแรงไม่ควรเกิดขึ้นกับใครเลย หากไม่พร้อมรับผิดชอบเด็กที่เกิดมา ปัจจุบันมีมูลนิธิต่างๆ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ สามารถเข้าไปขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือได้ เพราะทุกชีวิตมีค่าจึงควรได้ใช้ชีวิตต่อไป ด้วยความห่วงใยจาก Mamaexpert
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
ขอบคุณภาพ/ข้อมูุลจาก : ไทยรัฐ