อุทาหรณ์ แม่ท้องแฝดโพสต์ผ่าน Facebook ส่วนตัว เล่าเรื่องราวสุดช้ำ เสียลูกแฝดไป อ้างหมอจะเอาลูกออกเพราะลูกตาย หลังน้ำคร่ำแตก แต่เธอยืนยันว่าลูกทั้งสองยังมีชีวิต และยังดิ้นอยู่ รายละเอียดเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลยค่ะ
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ Facebook ชื่อ Walaiporn Thobuhyong โพสต์แชร์เรื่องราวของเธอ และลูกแฝดอายุครรภ์ 5 เดือน หลังไปรับบริการที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก ซึ่งเธอเห็นว่าบุคลากรใช้วาจาที่ไม่ถนอมน้ำใจผู้ป่วย จึงอยากออกมาแชร์เรื่องราวในครั้งนี้ โดยในโพสต์ระบุว่า “#มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับหมอ #โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก!! เมื่อวันที่19 พค.62 ที่ผ่านมา ประมาณ3ทุ่มน้ำคร่ำแตก(เราตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน) น้ำคร่ำแตกเราก็รีบไปโรงพยาบาล ไปถึงหมอผู้ชายก็มาซาว บอกว่าเด็กทั้ง2หัวใจยังเต้นปกติ แล้วก็ให้เราไปนอนรอ ซักพักใหญ่ๆหมอก็มาวัดปากมดลูก หมอบอกว่า"ไม่รอดยังไงก็แท้ง อีกไม่นานก็จะปวดเบ่งแล้วก็เบ่งออกมา"เราก็ถามว่าไม่มีวิธีช่วยทางอื่นแล้วหรอค่ะ หมอก็บอกว่า"เด็กตัวแค่ 200 กรัมจะช่วยยังไง ยังไงก็ไม่รอด ตาย ยังไงก็แท้ง" เราก็ร้องไห้ แล้วหมอก็เดินออกไปคุยกับแฟนเรา บอกแฟนเราว่า"แท้งหมดแล้ว" เราก็นอนรอปวดท้องทั้งคืน แต่ก็ไม่ปวด ลูกก็ยังคงดิ้นปกติ(นอนรอทั้งคืนไม่มีหมอมาตรวจอะไรเลยไม่มีการมาฟังคลื่นหัวใจเด็กไม่มีการมาอัลตาซาว) จนตอนเช้าเราขอโทรศัพท์พยาบาลโทรไปหาแฟนเรา แฟนเราก็ถามว่า"ลูกออกมาหมดยัง" เราก็เลยบอกว่า"ลูกยังไม่ออก ลูกยังดิ้นอยู่เลย" เราก็ร้องไห้ เราก็นอนรออยู่แบบนั้น จนประมาณกี่โมงไม่รู้หมอก็มาตรวจอีก หมอบอกว่า"จะให้ยาเร่งออกนะ" เราก็ร้องไห้แล้วบอกว่าลูกหนูยังดิ้นอยู่เลย อย่าพึ่งให้ยาเอาออกได้มั๊ย หมอก็ให้เราไปซาว แต่ตอนซาวเราไม่เห็นจอซาวนะ หมอเห็นคนเดียว หมอบอกเราว่า"เด็กตายแล้วคนนึง ยังไงก็ต้องเอาออก" เราถามหมอว่า"รู้ไหมค่ะว่าเด็กเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย" หมอตอบว่า"จะอยากรู้ไปทำไม รู้ไปก็เท่านั้น ยังไงก็ไม่รอด ไม่ได้เลี้ยงอยู่ดี ยังไงก็ตาย" เราก็ร้องไห้หนักเลย หมอบอกว่าถ้าไม่เอาออกเราจะตายเพราะติดเชื้อ" หมอก็จะให้ยาเร่งออก แต่เรายืนยันว่าลูกยังดิ้นอยู่ ลูกยังไม่ตาย เราไม่ยอมให้หมอเอาออก เราเลยขอหมอปรึกษาญาติก่อน หมอก็ให้ออกไปนอนเตียงข้างหน้าให้ญาติเข้ามาคุย หมอบอกกับญาติเราว่า"ต้องเอาออกเพราะเดี๋ยวติเชื้อ เด็กในท้องตายแล้วคนนึง อีกไม่นานเด็กในท้องจะเน่า" แฟนก็มาเกลี้ยกล่อมให้เรายอมเอาเด็กออกเพราะกลัวเราตาย เราเริ่มใจอ่อนเลยถามพยาบาลว่า"ถ้าให้ยาเร่งแล้วหนูปวดท้องต้องทำยังไง" พยาบาลก็ตอบว่า"ปวดท้องก็ไปเข้าห้องน้ำ เบ่งลงชักโครกไปเลย แล้วกดน้ำทิ้งไปเลย"เราก็ร้องไห้ แฟนเราก็ถามพยาบาลว่า"ทำแบบนั้นเลยหรอ" พยาบาลบอก"ใช่ ในชักโครกนี่เด็กอยู่กี่คนแล้วก็ไม่รู้ ลูกพยาบาลก็อยู่ในนี้ ของเราเด็กตัวนิดเดียวเท่านั้นแหละ ตัวเท่าหัวนิ้วโป้มือเบ่งลงชักโครกไปเลย" พอเราได้ยินแบบนี้ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก จนป้าเรามาป้าบอกยอมให้หมอเอาออกเถอะ เราก็ร้องไห้บอกป้าว่า"ดูท้องหนูสิจับท้องหนูดู ลูกหนูยังดิ้นอยู่เลย จะให้หนูทำได้ยังไง" ทุกคนเห็นว่าลูกเราดิ้นเหมือนงูที่เลื้อยอยู่ในท้อง ป้าเลยบอกงั้นย้ายโรงบาลไปม.ศ.ว.กัน เราไปขอให้หมอทำเรื่องส่งตัว หมอบอก"ไม่ทำ อยากไปก็ไปเลย ตายมาไม่รับผิดชอบนะ" ทางเราเลยตัดสินใจไปม.ศ.ว.เลย ไม่รอแล้ว ไปถึงหมอที่ม.ศ.ว.พาไปซาว บอก"เด็กยังมีชีวิตทั้งคู่ แต่น้ำคล่ำแห้งหมดแล้ว" หมอที่ม.ศ.ว.พยายามวางแผนที่จะช่วยชีวิตเด็กทั้ง2แล้วก็เราตลอดเวลา มาดูอาการทุกชั่วโมง ปลอบใจเราตลอด ขนาดจะให้ยาขับออกยังบอกว่า"ถ้าเด็กยังมีชีวิตจะไม่ให้ยาขับออก" หมอที่ม.ศ.ว.มาวัดคลื่นหัวใจเด็กตลอด เด็กยังหัวใจเต้นทั้งคู่ แต่หมอบอกว่า "เรามาช้าไปเพราะน้ำคล่ำแห้งหมดแล้ว เด็กเจริญเติบโตต่อไม่ได้แล้ว ยังไงคงต้องเอาออก ถ้าแม่พร้อมจะเอาออก บอกหมอนะ หมอไม่รีบ ให้แม่ทำใจก่อน"#สรุปพอคลอดออกมาเด็กหนักคนล่ะ500กรัม(ครึ่งกิโล)แล้วหมอโรงบาลนครนายกบอกว่าตัวแค่หัวนิ้วโป้มือ!!(ออกมาเด็กตัวเท่าแขน)
#บอกเลยนับตั้งแต่วันนี้จะไม่เข้าใช้บริการโรงพยาบาลนี้อีก
#ลูกยังไม่ตายบอกตายแล้วบอกว่าลูกจะเน่าในท้อง
พูดจาออกมาแต่ล่ะคำฟังไม่ได้เลย #ตาย #ไม่รอด #แท้ง #ยังไงก็แท้ง#เด็กตัวเท่าหัวนิ้วโป้มือ #ปวดท้องไปเข้าห้องน้ำเบ่งลงชักโครกแล้วกดทิ้งไปเลย!! คำพูดแบบนี้สมควรที่จะออกจากปากหมอปากพยาบาลหรอ!?
ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรหรอก....#แค่อยากให้ปรับปรุงการให้บริการและคำพูดให้ดีกว่านี้!!
จากกรณีดังกล่าว เป็นที่น่าเห็นใจคุณแม่ท่านนี้ที่เสียลูกแฝดไป แม้จะเปลี่ยนโรงพยาบาลเพื่อยื้อชีวิตลูกไว้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว เชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงมีความคาดหวัง เมื่อไปถึงมือหมอว่าทุกอย่างจะเป็นไปในทางที่ดี แต่ถึงอย่างไรเรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงจากทางโรงพยาบาลดังกล่าว ต้องรอติดตามความคืบหน้าต่อไป สุดท้าย Mamaexpert ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสียด้วยค่ะ
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1.ภาวะน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ Oligohydramnios
2.คุณแม่ท้องแก่น้ำคร่ำแตก แต่ต้องรอถึง 5 ช.ม. จนต้องเสียลูกไป
3.ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนเจ็บครรภ์ อันตรายหรือไม่? ต้องดูแลตนเองอย่างไร?
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editoorial Team
ขอบคุณข้อมูลจาก : Walaiporn Thobuhyong