6 เทคโนโลยีช่วยท้อง ที่คนอยากท้อง อยากมีลูก คนมีบุตรยากต้องรู้ไว้!!!

29 October 2018
6963 view

เทคโนโลยีช่วยท้อง

ปัจจุบันการใช้ชีวิต การมีคู่ครองเปลี่ยนแปลงไป หนุ่มสาวเริ่มแต่งงานหรือมีลูกช้าลง ทำให้คู่รักบางคู่มีปัญหาในการมีบุตรหรือมีภาวะมีบุตรยาก บางคู่ก็เริ่มท้อ ถอดใจ ไม่อยากมีลูก บางคู่ก็ใจสู้หาทางแก้ไขโดยการปรึกษาแพทย์ และสิ่งที่แพทย์แนะนำหรือหาทางช่วยก็คือการใช้เทคโนโลยีช่วยท้อง (Assisted reproductive technology) แล้วเทคโนโลยีช่วยท้องคืออะไร สำคัญอย่างไรต้องตามมาค่ะ

ทราบหรือไม่?...เทคโนโลยีช่วยท้องคืออะไร

เทคโนโลยีช่วยท้อง เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้ประสบปัญหามีบุตรยากสามารถมีลูกได้ ซึ่งมีการนำอสุจิและไข่ออกจากร่างกายมนุษย์(1) มีการปฏิสนธิของไข่และอสุจิภายนอกร่างกายหรือภายในร่างกาย โดยเป็นไปตามธรรมชาติและไม่ตามธรรมชาติ(1) โดยจะแตกต่างกันไปในแต่ละวิธี

เทคโนโลยีช่วยท้องที่ช่วยให้มีลูก มีอะไรบ้าง?

  • การฉีดเชื้อผสมเทียม (Intrauterine insemination : IUI) เป็นเทคโนโลยีช่วยท้องที่ช่วยให้มีลูก 

    เป็นการนำน้ำเชื้อของฝ่ายชายที่ผ่านการคัดกรองมาแล้ว โดยเลือกตัวที่แข็งแรง สมบูรณ์ที่สุด ฉีดเข้าโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงในวันที่ไข่โตสมบูรณ์ พร้อมปฏิสนธิ
  • การทำกิ๊ฟท์ (Gamete intrafallopian transfer : GIFT) เป็นเทคโนโลยีช่วยท้องที่ช่วยให้มีลูก

    เป็นวิธีที่มีการปฏิสนธิของไข่และอสุจิภายในร่างกาย เพราะการทำกิ๊ฟท์ มีการเจาะไข่ออกมาแล้วนำกลับเข้าไปในท่อนำไข่พร้อมกับอสุจิ วิธีนี้จะมีการผ่าตัดเจาะช่องท้องเพื่อให้ง่ายต่อการนำไข่กับอสุจิกลับเข้าไปในท่อนำไข่ ปัจจุบันการทำกิ๊ฟท์ไม่ค่อยได้รับความนิยม
  • การทำเด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization : IVF) เป็นเทคโนโลยีช่วยท้องที่ช่วยให้มีลูก 

    การทำเด็กหลอดแก้วจะมีการกระตุ้นการตกไข่ของฝ่ายหญิง ดูดเอาไข่ออกมาเลี้ยงในตู้ที่ใช้เลี้ยงตัวอ่อน ควบคุมอุณหภูมิต่างๆ เมื่อไข่โตเต็มที่จะนำอสุจิมาปฏิสนธิกับไข่ เมื่อปฏิสนธิสำเร็จจะทำการเลี้ยงตัวอ่อนไป 3-5 วัน เมื่อครบกำหนด จะนำตัวอ่อนฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
  • การทำอี๊กซี่ (Intracytoplasmic Sperm Injection : ICSI) เป็นเทคโนโลยีช่วยท้องที่ช่วยให้มีลูก 

    ทำอิ๊กซี่คล้ายกับการทำเด็กหลอดแก้ว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการกระตุ้นไข่ให้ตก การเจาะเก็บไข่มาผสมกับกับอสุจิ ตัวอ่อนที่นำเข้าไปฝั่งในมดลูกก็เป็นตัวอ่อนที่อยู่ระยะบลาสโตซิสต์เช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่การทำอิ๊กซี่จะเลือกอสุจิที่ดีที่สุดนำมาฉีดเข้าที่ไข่โดยตรง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ
  • การทำซิฟท์ (Zygote Intrafallopian Transfer : ZIFT) เป็นเทคโนโลยีช่วยท้องที่ช่วยให้มีลูก

    การทำซิฟท์เป็นการผสมผสานกันระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วและการทำกิ๊ฟท์ เนื่องจากมีการกระตุ้นให้ไข่ตก ดูดเอาไข่ออกมา ปล่อยให้ปฏิสนธิกับอสุจิ เลี้ยงจนได้ตัวอ่อนในระยะ zygote แล้วทำการผ่าตัดหน้าท้องนำตัวอ่อนเข้าไปในท่อนำไข่
  • อุ้มบุญหรือตั้งครรภ์แทน (Surrogacy) เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยท้องเข้ามาช่วยให้มีลูก

    การอุ้มบุญนั้นต้องใช้ญาติโดยสายเลือดของฝั่งชายหรือหญิง อายุ 20-35 ปี(1)และต้องเคยมีลูกมาแล้ว โดยจะมีการกระตุ้นไข่แม่ที่ต้องการมีลูกกับแม่อุ้มบุญ ให้ไข่ตกพร้อมกันแล้วทำการดูดเอาไข่ของทั้งสองออกมา โดยใช้ไข่ของแม่ที่ต้องการมีลูกมาปฏิสนธิกับอสุจิของสามี เมื่อปฏิสนธิจนได้ตัวอ่อน แพทย์จะนำตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกของแม่อุ้มบุญ

ปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยท้องมีบทบาทอย่างมากกับคนมีบุตรยาก โรงพยาบาลหลายแห่งมีศูนย์ผู้มีบุตรยากมากขึ้นเพื่อรองรับและบริการผู้มีบุตรยาก เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลขอนแก่น ศูนย์ผู้มีบุตรยากนวบุตร ศูนย์ผู้มีบุตรยากเจตนิน ศูนย์ผู้มีบุตรยากซูพีเรีย ART เป็นต้น  ส่วนเทคโนโลยีช่วยท้องแต่ละวิธีจะเหมาะสมกับผู้มีบุตรยากท่านใดนั้นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนวินิจฉัย ถ้าอยากมีลูกต้องรีบปรึกษาเลยนะคะ Mamaexpert เป็นกำลังใจให้ค่ะ

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. ทำไมไม่ท้องซักที ใครอยากท้องที่นี่มีคำตอบ
2. วิธีทำให้ท้อง หลากหลายวิธีที่จะทำให้คุณท้องได้สมใจ
3. อยากท้องต้องทำไง จัดด่วนๆ เคล็ดลับดีๆ สำหรับคนอยากมีลูก

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team

อ้างอิง:

  1. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558.เข้าถึงได้จาก http://www.thailawforum.com/child-born-by-assited-reproductive-technologies-in-medical-scinece/.[ค้นคว้าเมื่อ 22 ตุลาคม 2561]
  2. Karisa Ding.Fertility treatment: Gamete intrafallopian transfer (GIFT).เข้าถึงได้จาก https://www.babycenter.com/0_fertility-treatment-gamete-intrafallopian-transfer-gift_4095.bc.[ค้นคว้าเมื่อ 22 ตุลาคม 2561]
  3. Karisa Ding.Fertility treatment: Intracytoplasmic sperm injection (ICSI).เข้าถึงได้จาก https://www.babycenter.com/0_fertility-treatment-intracytoplasmic-sperm-injection-icsi_4097.bc.[ค้นคว้าเมื่อ 22 ตุลาคม 2561]
  4. Karisa Ding.Fertility treatment: Intrauterine insemination (IUI).เข้าถึงได้จาก https://www.babycenter.com/0_fertility-treatment-intrauterine-insemination-iui_4092.bc.[ค้นคว้าเมื่อ 22 ตุลาคม 2561]
  5. Karisa Ding.Fertility treatment: In vitro fertilization (IVF) เข้าถึงได้จาก https://www.babycenter.com/0_fertility-treatment-in-vitro-fertilization-ivf_4094.bc.[ค้นคว้าเมื่อ 22 ตุลาคม 2561]
  6. Karisa Ding.Fertility treatment: Zygote intrafallopian transfer (ZIFT).เข้าถึงได้จาก https://www.babycenter.com/0_fertility-treatment-zygote-intrafallopian-transfer-zift_4096.bc. [ค้นคว้าเมื่อ 22 ตุลาคม 2561]