คดีบังคับ อมนกเขาแล้วกัดเกือบขาด!!! โอละพ่ออาจมีเงื่อนงำ

15 January 2017
3710 view

ตำรวจนำตัวหนุ่มหื่นที่สาวอ้างโดนบุกห้องจับย่าขังห้องน้ำ บังคับอมนกเขาแล้วได้ทีกัดสาหัสส่ง รพ. หลังจากดูกล้องวงจรปิดและดูจากเบาะแสที่อยู่จากกระเป๋าเงินคนร้ายที่สาวอ้างว่าทำตกในห้อง ก่อนหลบหนี ชี้มีประเด็นที่น่ากังขาว่า ทั้งคู่น่าจะรู้จักกันมาก่อน

(15 ม.ค.) พ.ต.ต นริทร์ นามบ้านค้อ สว.สอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี หนุ่มบุกหอพักบังคับสาวอมนกเขา โดยกัดจนต้องหลบหนีไปและตามจับตัวมาได้กลางดึก ได้ให้ชุดสายตรวจ 191 นำโดย ร.ต.อ.นิคม ตาลเลี่ยม นำตัว ผตห.ที่จับกุมได้ ส่งไปยังรพ.ร้อยเอ็ด เพื่อให้แพทย์เวร ตรวจร่องรอยการถุกทำร้ายกัดอวัยวะเพศ และบาดแผลอื่นๆ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนการก่อเกตุกระทำความผิดที่เกิดขึ้น

แพทย์ไว้ใช้เวลาตรวจอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ สรุปผลการตรวจร่างกายภายนอกว่า ผู้ต้องหามีร่องรอยได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ของเจ้าทุกข์และศรีษะมีการกระทบกับของแข็ง หรืออาจจะวิ่งชนประตูจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ซึ่งแพทย์เวรวินิจฉัยว่า ควรรับไว้เพื่อตรวจดูอาการเพื่อความปลอดภัยต่อไป

นอกเหนือจากนั้น ผู้ต้อหายังโดนกัดที่อวัยวะเพศ ซึ่งต้องรับไว้เพื่อรการตรวจอาการ จากแพทย์นิติเวชเฉพาะทาง โดยส่งตัวเข้ารีบการรักษาตัวที่ห้องศัลยกรรม 6 ตึกหมอพีร์ คำทอน รพ.ร้อยเอ็ด.ต่อไป ท่ามกลางการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตร.สายตรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ผลัดเปลี่ยนมาดูแลความปลอดภัยและป้องกันผู้ต้องหลบหนีระหว่างการดำเนินคดีตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับต้นเหตุของคดีนีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.ต นริทร์ นามบ้านค้อ สว.สอบสวน พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจากหญิงสาวอายุ 26 ปี ที่อาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งภายในซอย 10 ถนนเทวาภิบาลในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่มาเคาะประตูห้อง ตนเองคิดว่าเป็นเพื่อนจึงเปิดประตูให้ ปรากฏว่าเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน บุกเข้ามาในห้องที่ตนเองอยู่กับย่าวัย 78 ปี ข่มขู่ให้ตนเองอยู่ในความสงบ แล้วจับย่าไปขังไว้ในห้องน้ำ

จากคนร้ายก็ถอดกางเกงจะข่มขืนและบังคับให้อมอวัยวะเพศ ซึ่งตนไม่ยอมก็โดนทำร้ายร่างกาย ตนจึงจำต้องยอมเพราะโดนข่มขู่ เมื่อได้โอกาสเหมาะจึงกัดอย่างแรงที่อวัยวะเพศ จนคนร้ายได้รับบาดเจ็บ เสียหลักวิ่งออกไปจากห้อง และทำกระเป๋าเงินตกไว้ และตรวจสอบพบว่าชื่อ นายชาตรี วิเศษ อายุ 28 ปี

พร้อมกับตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในหอพักพบว่า มีภาพถ่ายชายคนดังกล่าว ที่เจ้าทุกข์ยืนยันว่าคือคนก่อเหตุ และสืบสวนทราบว่า ทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทางออกไปอำเภอวาปีปทุม จึงนำกำลังออกติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ในคดีข่มขืนทำร้ายร่างกายเจ้าทุกข์และบุกรุกเคหะสถานผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป

จากการสอบสวน นายชาตรี ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนก่อเหตุจริง โดยให้การอ้างว่า เบื้องต้นตนเองไม่ได้ตั้งใจข่มขืนหรือทำอนาจารหญิงสาว แต่เป็นเพียงการขี่รถติดตามมา เนื่องจากหญิงสาวที่รถ จยย.ตัดหน้า ตนจึงขับรถติดตามมาด้วยความโกรธ จนมาถึงหอพัก แล้วจอดรถไว้นอกหอพัก

จากนั้นได้เดินมาเคาะประตูเรียกให้แสดงความรับชอบ และพบว่าเจ้าของห้องหน้าตาดี จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และจะทำอนาจารและข่มขืนเจ้าทุกข์ โดยบังคับให้อมอวัยวะเพศ จนถูกกัดอวัยวะเพศได้รับบาดเจ็บจึงหลบหนีไปจนถูกท ตร.ตามจับได้ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด รายหนึ่งกล่าวว่า คดีนี้เป็นที่น่ากังขาว่า เจ้าทุกข์กับผู้ก่อเหตุอาจจะรู้จักกันมาก่อนหน้านั้น เพราะดูจากกล้องวงจรปิดคนร้ายไม่ได้เคาะประตู แต่หญิงสาวเหมือนจะรู้ว่าฝ่ายชายจะมา และเปิดประตูให้ทันทีที่ฝ่ายชายมาถึง

ขณะที่ลักษณะการคุยกันก็ไม่น่าจะเป็นการโต้เถียงข่มขู่ เพราะเห็นฝ่ายชายยื่นกระเป๋าเงินให้ฝ่ายหญิงเปิดดู แล้วก็มีการยื่นส่งคืนให้ก่อนเข้าไปในห้อง ซึ่งน่าจะมีเงื่อนงำทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายชายว่าจะให้ปากคำว่าอย่างไร หลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ที่มา : Snook

  • No tag available