คดีสุดสลด แม่มอมยาระงับประสาทลูกวัย 4 ขวบดับ เพื่อเริงรักสามีใหม่

30 November 2016
3349 view
เปิดคดีสุดสลด หญิงชาวอังกฤษให้ลูกสาววัย 4 ขวบ กินยาระงับประสาทหลายชนิดนานกว่าครึ่งปีจนเสียชีวิต เพียงเพื่อจะได้มีเวลาไปเสพสุขด้วยกับแฟนหนุ่ม โดยไม่มีลูกสาวคอยรบกวน วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 เว็บไซต์เมโทร เปิดเผยรายงานคดีสุดสลดจากมณฑลลิงคอล์นเชียร์ สหราชอาณาจักร โดยรายงานศาลระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2556 เด็กหญิงป๊อปปี้ วิดดิสัน วัย 4 ขวบ เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ภายในบ้านของ จอห์น ริทติง แฟนหนุ่มของ มิชาลา ไปค์ ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิง โดยในบ้านพบใบสั่งยาและยาอันตรายที่ต้องควบคุมการใช้เป็นจำนวนมาก



ผลการชันสูตรศพเด็กหญิงป๊อปปี้ พบยาอันตรายในร่างกายหลายชนิด ได้แก่ ยาระงับประสาท เฮโรอีน เมทาโดน (สารเสพติดคล้ายมอร์ฟีน ช่วยระงับอาการปวด) และเคตามีน ซึ่งตกค้างมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จนเด็กถึงแก่ชีวิต สอดคล้องกับผลการตรวจเส้นผมที่ระบุถึงระยะเวลาที่ร่างกายได้รับยาเหล่านี้เข้าไป นานมากกว่า 2-6 เดือน
 
โดยทางเจ้าหน้าที่สืบสวน ได้พบหลักฐานเป็นข้อความที่มิชาลาและจอห์นส่งหาถึงกัน ระบุชี้ชัดว่า มีการให้ยาให้ลูกสาว เพื่อให้เธอนอนหลับ ซึ่งจากรายงานระบุว่า หลังจากเด็กหญิงป๊อปปี้หลับ ทั้งคู่ก็จะได้ใช้ชีวิตคู่รักอยู่ด้วยกัน สามารถทำกิจกรรมด้วยกันได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่มีลูกสาวมากวนใจ สร้างความรำคาญ และรบกวนความเพลิดเพลิน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบบาดแผลฟกช้ำและร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายบนตัวเด็กหญิงป๊อปปี้อีกด้วย




อย่างไรก็ดี แม้ว่าผลการตรวจสอบจะไม่ได้บ่งชี้ชัดว่า ยาอันตรายดังกล่าวเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของเด็กหญิงป๊อปปี้ และสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้ แต่ทางผู้เชี่ยวชาญ มีความเห็นว่า เป็นผลกระทบในระยะยาวจากการปฏิบัติที่โหดร้าย ให้ยาอันตรายในปริมาณมากสำหรับเด็ก ทั้งคู่จึงถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมเด็กจนถึงแก่ชีวิต
 
ศาลเผยว่า มิชาลา วัย 37 ปี แม่ของเด็กหญิงป๊อปปี้ให้การสารภาพว่า รู้จักกับนายจอห์นมานาน 9 เดือน ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต โดยตอนแรกลูกสาวมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับจอห์น แต่หลังจากลูกสาวได้มีโอกาสพบกับพ่อแท้ ๆ ท่าทีของลูกสาวต่อจอห์นก็เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง


 
ทั้งนี้นางมิชาลาได้ยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็กหญิงป๊อปปี้ในบางครั้ง แต่เธอและแฟนหนุ่มปฏิเสธว่าไม่มีความรู้เรื่องยา ไม่มีเจตนาจะฆ่าลูกสาว และรู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของลูกสาวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา การมีสารเสพติดและยาอันตรายไว้ในครอบครอง ซึ่งขณะนี้คดีความยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเพื่อตัดสินดำเนินคดีต่อไป
 
ขอบคุณข่าว : http://hilight.kapook.com/view/145893