นักจิตวิทยามหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ท่านหนึ่งเคยอธิบายให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลาย โดยคิดเป็น “ ทฤษฎีพหุปัญญา ” ด้วยแนวคิดที่ว่าสติปัญญาของมนุษย์มีหลายด้านที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านไหนบ้าง แล้วแต่ละด้านผสมผสานกัน แสดงออกมาเป็นความสามารถในเรื่องใด เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนไป เริ่มต้นตั้งแต่วัยแรกคลอดและสำคัญมากในวัยก่อนเข้าโรงเรียน เด็กวัยอนุบาล หรือช่วงอายุ 3 – 5 ปี คุณพ่อคุณแม่จึงต้องหมั่นเสริมสร้างทักษะรอบด้าน เพื่อเพิ่มความฉลาดในการเรียนรู้ให้กับลูกน้อย มาดูกันเลยว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
- ฉลาดเพราะนมแม่ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ย่อมเป็นการเริ่มต้นชีวิตที่ดีของลูกน้อย เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่ดีสำหรับลูกน้อยมากมาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมกับช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองให้ลูกน้อยฉลาดสมวัย แต่หากคุณแม่คนไหนที่มีปัญหาเรื่องนมแม่ ทางแก้ไขที่ดีอีกทางหนึ่ง นั่นคือการเลือก “นมแพะ” สำหรับลูกน้อย นั่นเพราะในนมแพะมีระบบคัดหลังน้ำนมที่ใกล้เคียงกับนมแม่ เรียกว่า ระบบอะโพรไคน์ ทำให้ในนมแพะมีสารอาหารตามธรรมชาติที่มีประโยชน์สูง มี “พรีไบโอติก” แบบเดียวกับนมแม่มากกว่านมวัว ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านการติดเชื้อได้ด้วย โดยมี Oligosaccharides ตามธรรมชาติประมาณ 250–300 มก/ล. มากกว่านมวัวถึง 4-5 เท่า นอกจากนี้ในนมแพะมีวิตามินบี 12 สูง ช่วยเรื่องระบบประสาทและสมองของลูกน้อย และในนมแพะยังอุดมไปด้วย CPP โปรตีนนุ่ม ย่อยง่าย ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ได้รวดเร็ว ช่วยในการดูดซึมเกลือแร่ต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกายได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ในนมแพะยังมีมีแอลฟาเอสวันต่ำ และมีเบต้าเคซีนสูง อันเป็นสัดส่วนเคซีนที่ใกล้เคียงกับนมแม่นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่ดีกับลูกน้อยมากมาย ซึ่งคุณแม่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ
- เล่นกับลูก เพราะพ่อแม่คือของเล่นที่ดีที่สุดของลูกน้อย ความใกล้ชิด สนิทสนม พูดคุย แกล้ง ทำตลกใส่ เป็นต้น รู้ไหมว่าแม้กระทั่งทารกน้อยอายุเพียงแค่ 2 วัน ยังมีความสามารถเลียนแบบการแสดงออกทางสีหน้าอย่างง่าย ๆ ของคุณพ่อคุณแม่ได้ หรือเมื่อเขาโตขึ้นมานิดหนึ่งลองเล่นกับเขาในลักษณะที่ไม่คาดเดาเหตุการณ์ได้ ว่าต่อไปพ่อกับแม่จะเล่นอะไร หรือชวนลูกร้องเพลงทำเสียงสูงต่ำไปมา ซึ่งจังหวะดนตรีนี้มีนักวิจัยบอกว่าเกี่ยวพันกับการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของลูกน้อย เป็นต้น
- เรียนรู้จากธรรมชาติ การพาลูกน้อยออกไปสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้าน ไปเดินเล่นนอกบ้าน ไปเจอสิ่งที่เขาไม่เคยเห็น เพื่อให้เขาให้เห็นสิ่งใหม่ ๆ เช่น นกเกาะบนต้นไม้ กระรอกอยู่บนต้นไม้ ซึ่งพ่อแม่สามารถสร้างศัพท์ใหม่ ๆ ให้เขาได้เรียนรู้เช่นกัน หรืออาจจะทำเสียงเลียนแบบนก แล้วให้เขาลองทำตามลองดู หรือให้ลูกน้อยได้เล่นดินเล่นทรายได้สัมผัสกับธรรมชาติ เป็นต้น
- ให้ลูกมีส่วนร่วมในกิจกรรม เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่อันตราย ลองฝึกให้ลูกน้อยช่วยบ้าง เช่น ปิดทีวี เมื่อถึงเวลาเข้านอนของลูกน้อยแล้ว ลองบอกให้ลูกน้อยช่วยกดปุ่มปิดช่วย ส่วนแม่ก็จะดึงปลั๊กไฟฟ้าออก พร้อมกับบอกเขาด้วยเหตุผลของการทำระหว่างลูกน้อยกับแม่ด้วยว่าทำเพราะอะไร
- สร้างจิตนาการ ลองให้ลูกน้อยอยู่กับศิลปะ ชุดระบายสีวาดภาพ ดูสิว่าเขาจะสร้างภาพ ระบายสีตามจินตนาการของเขายังไง
- อ่านหนังสือให้ลูกฟัง จะช่วยให้ลูกน้อยเรียนรู้เรื่องภาษาได้ดี ซึ่งมีงานวิจัยบอกว่าแม้กระทั่งเด็กอายุ 8 เดือน ก็ยังสามารถเรียนรู้จดจำการเรียงลำดับคำในประโยคที่ผู้ใหญ่อ่านให้ฟังซ้ำ 2-3 ครั้งได้ การอ่านหนังสือให้ลูกน้อยฟังจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรทำทุกวัน
- ฝึกความเป็นตัวของตัวเองให้ลูกขั้นแรก ลองให้เวลาลูกน้อยประมาณ 5-10 นาที ในแต่ละวัน นั่งเงียบ ๆ สบาย ๆ กับลูกน้อยบนพื้นบ้าน ไม่ต้องเปิดเพลง เปิดไฟ หรือเล่นอะไรกัน ลองให้เขาสำรวจสิ่งต่าง ๆ ตามใจชอบ และดูว่าลูกน้อยจะคลานมาขอเล่นกับพ่อแม่อีกครั้ง ซึ่งนี่เป็นการฝึกความเป็นตัวของตัวเองให้ลูกขั้นแรก
- กระจกเงาวิเศษ คุณพ่อคุณแม่ลองให้ลูกน้อยสนุกกับการเห็นเงาของตัวเองในกระจก สอนให้เขาโบกมือ ยิ้ม หัวเราะ ทำหน้าทำตากับกระจกลองดู
ทั้งนี้หากคุณแม่มีปัญหาในส่วนของโภชนาการ หรือสารอาหารสำหรับลูกน้อย หรือมีปัญหาเรื่องของน้ำนม ไม่รู้จะเริ่มต้นเลือกนมให้ลูกอย่างไร สามารถปรึกษาได้ที่ ศูนย์โภชนาการนมแพะ 02-683- 3394-6 หรือ 02-8812488 (วันและเวลาทำการ) 1800-29- 3838 (ฟรีเฉพาะเบอร์บ้านและระบบทรู) ด้วยที่นี่จะมีคำแนะนำเกี่ยวกับสารอาหารธรรมชาติ ที่มีคุณประโยชน์มากมาย และข้อมูลเกี่ยวกับ Natural Genius สร้างพัฒนาการความฉลาดได้ด้วยธรรมชาติ เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของลูกน้อยนั่นเอง
