การรับรู้และการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน จากการศึกษาพบว่าการรับรู้และการเรียนรู้ของเด็กทุกช่วงวัยสัมพันธ์กับระดับภูมิต้านทานของร่างกายด้วย การได้รับภูมิต้านทานที่ดี ตั้งแต่แรกคลอด ส่งผลดีต่อสุขภาพลูกรักในระยะยาว โดยแหล่งสร้าง ภูมิต้านทานที่สําคัญและใหญ่ที่สุดของร่างกาย คือ ลําไส้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลล์สร้างภูมิต้านทานถึงร้อยละ 70 ของร่างกาย และยังมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานด้วย วันนี้พ่อแม่ยุคใหม่มาทำความรู้จักกับภูมิต้านทานอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มศักยภาพของลูกอย่างเหนือชั้น ตั้งแต่วันนี้ …
ภูมิต้านทานของลูกได้มาอย่างไร
ปกติการสร้างภูมิต้านทานจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงแรกของชีวิต ดังนั้นการเริ่มต้นที่ดีในช่วงนี้จะส่งผลต่อสุขภาพ และพัฒนาการร่างกายและสมองระยะยาวของเด็ก โดยแหล่งสร้าง ภูมิต้านทานที่สําคัญและใหญ่ที่สุดของร่างกาย คือ ลําไส้ ซึ่งมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย และโภชนาการเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยให้จุลินทรีย์เหล่านี้ทํางานได้เต็มประสิทธิภาพ
ภูมิต้านทานที่ต่างกัน ทำให้ศักยภาพของลูกต่างไปอย่างไร ?
เด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ และ เด็กที่มีภูมิต้านทานที่ดี เมื่อเปรียบเทียการรับรู้ การเรียนรู้ทั้งทางร่างกายและสมองแล้วพบว่าต่างกันสิ้นเชิง โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ หรือสถานที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน เช่น คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปเที่ยวทริปผจญภัยในช่วงซัมเมอร์นี้ เด็กที่มีภูมิต้านทานที่ดี ย่อมอยากเรียนรู้ อยากสัมผัส พร้อมที่จะก้าวไปเผชิญกับสิ่งต่างๆที่อยู่ต่อหน้า แม้วาสิ่งเหล่านั้นเขาจะไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ตาม เพราะสมองของเด็กกลุ่มนี้มีการประมวนผลได้อย่างรอบคอบรวดเร็ว การคิดการตัดสินใจต่างๆจึงเกิดขึ้นในระยะเวลาที่กระชับและมั่นใจกว่า สำหรับเด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ หากต้องเผชิญในสถานการณ์ดังกล่าว การเอาตัวรอดจึงไม่ใช่เรื่องง่ายของเด็กกลุ่มนี้ เพราะไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าเผชิญกับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่แตกต่าง หรือแม้สถานการณ์คับขัน เด็กที่ภูมิต้านทานต่ำจะลังเลและก้าวผ่านสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชิวิตประจำวันได้ยากกว่า
ภูมิต้านทานที่เหนือชั้น สร้างได้อย่างไร?
นมแม่ คือ ภูมิต้านทานที่เหนือชั้น เพราะน้ำนมแม่มีองค์ประกอบเสริมสร้างภูมิต้านทานหลายชนิด รวมทั้งโพรไบโอติก (จุลินทรีย์สุขภาพ) และพรีไบโอติก (อาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ) ซึ่งทำงานร่วมกันแบบซินไบโอติก ส่งผลให้จุลินทรีย์สุขภาพเจริญเติบโตได้ดี ลดจำนวนจุลินทรีย์ก่อโรค ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดี ไม่เจ็บป่วยง่าย แต่ … เด็กทุกคนมีโอกาสได้รับนมแม่มากน้อยแตกต่างกัน เด็กบางคนไม่ได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกคลอดเป็นการพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้รับภูมิต้านทานที่เหนือชั้นตามธรรมชาติ จากการศึกษาพบว่า การได้รับโภชนาการที่ดีและเหมาะสมตามวัยช่วยเพิ่มจุลินทรีย์สุขภาพให้กับลูกได้ นอกจากภาวะโภชนาการที่ดีแล้วสิ่งที่สามารถเพิ่มภูมิต้านทานที่เหนือชั้นให้กับลูกของคุณแต่ละช่วงวัย มีดังนี้
1. นม นมแม่คือ ภูมิต้านทานที่เหนือชั้น เพราะมีและสารอาหารที่จําเป็นในการสร้างภูมิต้านทานให้แก่ลูกอย่างครบถ้วนแต่ … หากลูกไม่ได้ดื่มนมแม่ การเลือกนมที่มี ซินไบโอติค สามารถช่วยกระตุ้น การพัฒนาภูมิต้านทานของลูกได้ เช่นกัน การให้นมลูกตามวัยควรเป็นดังนี้
- 6 เดือนแรก กุมารแพทย์แนะนำให้ดื่มนมแม่หรือนมผงดัดแปรงสำหรับทารก
- หลัง 6 เดือน ดื่มนมแม่หรือนมผงดัดแปลง และเริ่มอาหารเสริมตามช่วงวัย
- เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไป ควรดื่มนมแม่ หรือนม ยูเอชที สารอาหารที่ได้จากนมมีความจำเป็นในการสร้างเครือข่ายเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท หากเซลล์ประสาทเชื่อมต่อกันได้หลาย ๆ เซลล์ ก็จะส่งผลเพิ่มพลังในการเรียนรู้ของเด็กได้มากกว่าเด็กปกติ
2. อาหาร เพราะอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตตั้งแต่วันแรกที่คลอด ลูกควรได้รับอาหารที่มีภูมิคุ้มกันสูงสุดตามช่วงวัย สำหรับทารกวัยแรกเกิด – 6 เดือน ควรได้รับนมแม่อย่างเดียว และเมื่อครบ 6 เดือนแล้ว ควรได้รับอาหารเสริมตามช่วงวัย ให้ครบ 5 หมู่ตามความต้องการของร่างกาย และที่สำคัญยังคงให้ลูกดื่มนมให้ถูกกับช่วงวัยควบคู่ไปด้วย
3 การนอน เด็กแต่ละช่วงวัยมีแบบแผนการนอนและต้องการชั่วโมงการนอนที่แตกต่างกัน ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับ สมองและร่างกายยังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องทุกวินาที การนอนหลับอย่างเพียงพอจึงส่งผต่อการสร้างและพัฒนาเซลล์ต่างๆของร่างกายและสมองของลูกรัก การนอนอย่างเพียงพอจึงเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานที่ดีกว่า ให้กับลูกรักของคุณ
4.การเล่นตามวัย การเล่นเป็นการพัฒนาทักษะชีวิตของลูก พ่อแม่ควรหาของเล่นและวิธีการเล่นให้เหมาะกับช่วงวัยของลูก การพาลูกไปเล่นกลางเเจ้งและสัมผัสสิ่งแปลกใหม่อย่างเหมาะสม เป็นการได้รับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่แปลกใหม่และหลากหลาย ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดีกว่า
5.วัคซีน เด็กไทยทุกคน ควรได้รับวัคซีนบังคับให้ครบตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อกระตุ้นระบบภูมิต้านทานตามช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 6 ปี
จะเห็นได้ว่าพัฒนาการและการเรียนรู้ ของลูกทุกย่างก้าวจะดีและมีศักรยภาพ ต้องเริ่มจากร่างกายมีต้านทานที่ดีก่อน คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต้องหันมาสนใจและใส่ใจ เรื่องภูมิต้านทาน ให้มากขึ้น เพื่อศักยภาพที่ดีกว่า สู่ความสำเร็จที่เร็วกว่า ของลูกรักในอนาคต
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
ขอบคุณข้อมูล : www.hiqkidsclub.com