วันที่ 24 กพ.ที่ สตูดิโอแกรมมี่ ย่านอโศก มีงานแถลงข่าว “ช่อง ONE ของคุณ ทั้งวัน ทุกวัน” ซึ่งในงานนี้มี “พิมพ์”พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร มาร่วมงานด้วย โดยหลังจบงาน พิมพ์มาดา ให้สัมภาษณ์เรื่องทีกำลังรักษาตัวจากการไปผ่าตัดก้อนเนื้อที่รังไข่ เมื่อช่วงปลายเดือนต.ค.ปี 58 และหมอตรวจพบว่าเป็นก้อนเนื้อร้ายที่สามารถพัฒนาเป็นมะเร็งจนต้องรักษาตัวเป็นการด่วนด้วยการให้คีโม ว่า “ช่วงต.ค ปีที่แล้ว ไปตรวจร่างกาย รู้สึกมีความผิดปกติ ท้องบวม เลยพบก้อนเนื้องอกในรังไข่ ซึ่งคุณหมอให้ผ่าออกเลย เบรคงานทุกอย่าง พิมก็ ผ่าออก ไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอผ่าออกมา ก้อนมันใหญ่มาก คุณหมอเลยเอาก้อนเนื้อไปตรวจอย่างละเอียดเลยเจอบางสิ่งว่ามันอาจพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง และให้คำแนะนำว่าควรต้องทำคีโม พิมพ์เจอเร็ว ถ้ารักษาตอนนี้ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ยาวๆ ไม่ต้องกังวลคำว่ามะเร็ง แต่ถ้ายังไม่อยากรักษา หลังจากนี้ไป5ปี นับจากวันนี้ คุณหมอจะไม่การันตีอะไรทั้งนั้น

คำตอบจากหมอตกใจสุดชีวิต

“ตอนคุณหมอพูดแค่นั้นก็ช็อคไปแล้วใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มือไม้อ่อน มีพี่เจี๊ยบ-โสภิตนภา คุณแม่และทุกคน พาไปพบคุณหมอปรึกษาว่าควรรักษายังไง ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องทำคีโมเพื่อระยะยาว ตอนนั้นก็หยุดทุกสิ่งอย่างเพื่อรักษาตัวในช่วงที่หายไป ก็มีผลข้างเคียงเหมือนคนอื่น ผมร่วง”

ถามว่าเสียความมั่นใจไหมหรือการใช้ชีวิตลำบากไหม
“ยอมรับว่าลำบาก เพราะไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น คนที่มีประสบการณ์ก็มาเล่าหรอกว่าเราต้องเข้มแข็ง ถ้าใจเราดี เราก็จะผ่านไปได้ สุดท้ายพิมพ์ก็ยอมรับและใช้ชีวิตอยู่กับเค้าอย่างเข้าใจ ว่าเดี๋ยวมันมาแล้วมันก็จะต้องหาย เพราะคุณหมอก็ทำให้เราสบายใจถูกทางว่าพิมจะหายโดยไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้อีก ซึ่งคุณหมอบอกว่ามีโอกาสหาย 90%”
ต้องรักษาอย่างไรบ้าง
“ขั้นตอนการรักษาคือให้คีโมพิมพ์ต้องทำทั้งหมด 6 ครั้งตอนนี้ทำไปแล้ว 5 ครั้ง ยอมรับว่ามันก็มีผลข้างเคียง ก็ต้องขอบคุณตัวเองและคนรอบข้างทุกคนที่ให้กำลังใจเต็มที่มันทำให้พิมพ์รู้สึกว่าพิมแข็งแรงและต้องผ่านมันไปให้ได้พิมพ์อยากมีชีวิตต่อไปอีกยาวๆ พิมพ์ไม่อยากจบแค่นี้เพราะคำว่าเรากลัวการให้คีโม ถ้าเราทำ เราอดทนแล้วจะหายพิมพ์ก็อยากจะหาย”

อาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คือมันเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายที่เรารู้ว่าเรามีโรคแบบนี้อยู่ในร่างกาย เจอเร็วเลยรักษาได้ มันยังไม่ทันเป็นมะเร็ง มันยังไม่ได้กัดกินทำลายร่างกาย ตอนนี้สิ่งที่สู้คือพิมพ์สู้กับคีโมกับอาการแพ้นิดหน่อย แต่เราสามารถทำงานได้ ถ้าให้ยาใน 1 อาทิตย์จะต้องพักผ่อนอาทิตย์ถัดไปถึงจะแข็งแรงทำงานได้ส่วนกำลังพิมพ์ดีมากทุกครั้งที่ตรวจ หมอก็จะชมว่าดีขึ้น แข็งแรง ทำคีโมอีก 1 ครั้งก็จบแล้วมันทำให้เรามีกำลังใจที่สำคัญพิมพ์ได้เป็นตัวอย่างของคนในรุ่นเดียวกับพิมพ์ที่ได้ดูแลสุขภาพร่างกาย ที่ผ่านมาพิมพ์ไม่เคยตรวจร่างกายเลยพอตรวจออกมาแล้วเจอเลย ทำให้หลายคนต้องหันกลับมาดูแลร่างกายตัวเองมากขึ้น”

หลังจากนี้จะต้องรักษาอย่างไรต่อไป
“พิมพ์ถามหมอตลอด หมอก็บอกว่าให้พิมพ์ใช้ชีวิตปกติ จบตรงนี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตมีสติด้วย เพราะต้องคิดว่าถ้าต้องกินสิ่งนี้แล้วไปกระตุ้นมะเร็งเราก็ต้องเลี่ยงไปกินอย่างอื่น เพื่อนๆคนรอบข้างก็ให้กำลังใจตลอด ตอนที่ทราบพิมพ์ไม่มีเวลาทำอะไรเลยเพื่อนๆและคนรอบข้างก็คอยให้กำลังใจเพราะตัวเองก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน แต่อย่างที่บอกหมอครอบครัวและคนรอบข้างให้กำลังใจและบิกว่าจะผ่านไปด้วยกัน ตอนผ่าตัดพิมพ์ไม่กลัวเลย รู้สึกว่าผ่าตัดแล้วเดี๋ยวมันก็หาย เอาออกแล้วมันจะดี ก็ไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นอะไรอีก ตัวพิมพ์เองก่อนหน้านี้มีปัญหาเกี่ยวกับการเป็นประจำเดือนแล้วปวดท้องตั้งแต่เด็กๆมันก็อาจจะเป็นผลต่อฮอร์โมนก็ได้”

มีผลต่อการมีบุตรหรือเปล่า
“ส่วนเรื่องการมีบุตรในอนาคต หมอบอกว่ายังมีบุตรได้เพราะว่าตัดรังไข่แค่ข้างเดียว แต่ไม่รู้ว่าข้างไหนพิมพ์ไม่ได้ถามหมอค่ะ ตัวพิมพ์ก็อยากบอกกับทุกคนว่าเรื่องนี้พิมพ์ไม่ได้ปิดบังอะไรแต่ไม่ได้ออกมาบอกจนวันนี้ พิมพ์รักษาหายแล้ว ก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา ตอนนี้อยากบอกทุกคนว่าพิมพ์น่าจะหายขาดแล้ว และก็คงค่อยๆกลับมาฟื้นฟูร่างกายให้เหมือนเดิม แต่กำลังใจเกินร้อยนะคะ”

มะเร็งรังไข่ ยังเป็นโรคติดอันดับต้นๆที่คร่าชีวิตหญิงไทยปีละหลายคน รู้เท่าทันโรคตรวจสุขภาพทุกปีดีที่สุดค่ะ mamaexpert ขอเป็นกำละงใจให้คุณพิมพ์หายเป็นปกติในเร็ววันนะคะ

ขอบคุณข้อมูล  : ข่าวสด
เรียบเรียงโดย  :  Mamaexpert Editorial Team
บทความแนะนำเพิ่มเติม  :  โรคมะเร็งรังไข่