เว็บไซต์ไลฟ์นิวส์ของรัสเซียรายงานว่า มีเหตุอาชญากรรมครอบครัวที่ปาโดลสก์ ทางใต้กรุงมอสโกของรัสเซีย เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา นายดมิตรี มิโลวานอฟ อายุ 30 ปี สังหารลูกของตัวเอง 2 คน คือ เด็กหญิงเซเนีย อายุ 10 เดือน และเด็กชายอิลยา อายุ 4 ปี ภายในอพาร์ตเมนต์ของเขา
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า นายดมิตรีใช้มีดทำครัวเดินเข้าไปแทงเซเนียและอิลยาขณะนอนหลับในห้องนอน นางตาเทียนา ภรรยาของเขา เห็นเหตุการณ์และพยายามหยุดยั้งสามีแต่ไม่สำเร็จ เธอได้รับบาดเจ็บด้วย จากนั้นเธอวิ่งไปขอความช่วยเหลือข้างบ้านและโทรศัพท์แจ้งตำรวจนายอเล็กซานเดอร์ นาโซนอฟ เพื่อนบ้านของครอบครัวมิโลวานอฟ บอกว่า ร่างกายของนางตาเทียนาเต็มไปด้วยเลือด และตัวเองได้ยินเสียงเธอร้องว่า “สามีฆ่าลูก เรียกรถพยาบาลเร็ว” และบอกว่า ความจริงแล้ว นายดมิตรีเป็นคนสุภาพ เป็นมิตร และยิ้มแย้ม กับคนรอบข้างมาโดยตลอดเป็นที่สังเกตว่า ในโซเชียลมีเดียของครอบครัวมิโลวานอฟดูจะไม่มีพิษมีภัยแต่อย่างใด นายตาเทียนาโพสต์ภาพถ่ายสามีและลูกๆ บนโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ โดยแฮชแท็กข้อความ “สามีที่ดีสุด” “สามีของฉันดีสุดๆ” และ “รักนะ”
หลานชายของนายดมิตรีให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ลุงของเขาสังหารลูกของตัวเองและพยายามฆ่าตัวตายหลังจากนั้น แต่ญาติช่วยห้ามเขาไว้และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านั้น นายดมิตรี ภรรยา และลูก 2 คน มีบ้านเป็นเจ้าของธุรกิจทัวร์ในประเทศไทย แต่เนื่องด้วยวิกฤตหนี้สิน ธุรกิจทัวร์จึงตกต่ำ โดยยังอาศัยอยู่ในประเทศไทยหลายเดือน จากนั้นครอบครัวจำเป็นต้องเดินทางกลับรัสเซีย ภรรยาของนายดมิตรีไม่ทราบถึงภาระหนี้สินของเขา ทว่าสองสามีภรรยาเริ่มมีปากเสียงกันถึงปัญหาการเงินทันทีหลังกลับมาจากประเทศไทย
พนักงานสอบสวนระบุว่า สาเหตุของการสังหารอาจเป็นเพราะภาระหนี้สินของหนึ่งในเจ้าหนี้รายหนึ่ง มูลค่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3.5 แสนบาท) และไม่สามารถชำระหนี้สินได้ทันเวลา นายดมิตรีจึงตัดสินใจสังหารลูกของตัวเองในที่สุด นายดมิตรีให้การรับสารภาพว่า สังหารลูกสาววัย 10 เดือน และลูกชายวัย 4 ขวบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ กับลูก และรู้สึกเสียใจมากกับการกระทำของเขา “ผมรักลูกและภรรยามาก แต่คิดว่านี่จะเป็นหนทางที่ดีกว่า”
ด้านหัวหน้ากรรมการสอบสวนระบุว่า ปัญหาการเงินของครอบครัวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นายมิโลนาวาก่อเหตุสังหารลูกของตัวเอง และนายมิโลวานอฟอยู่ในสภาวะจิตใจไม่ปกติขณะก่อเหตุฆาตกรรม
ขอบคุณที่มา : ข่าวสด